นวัตกรรมการเกษตร โดย ภัคภณ ศรีคล้าย: การดูแลยาสูบ

ขั้นตอนแรกของการเพาะกล้า

ระบบ Semi-Floating

คือ..

• การทำความสะอาดแปลงซีเมนต์กะบะเพาะ ไว้ล่วงหน้าซักก่อน 15 วัน

• ก่อนที่จะนำถาดเพาะกล้าลงแช่ในแปลงกะบะเพาะ

และทำการพ่นฆ่าเชื้อโรคต่างๆบริเวณรอบๆ แปลงกะบะซีเมนต์ ด้วย "อีเรเซอร์-1"

• ควรนำถาดเพาะ ออกมาทำการฆ่าเชื้อด้วยการแช่ในน้ำยา "อีเรเซอร์-1" ประมาณ 10-15 นาทีแล้วค่อยเอาออกมาผึ่งให้แห้ง

• หมายเหตุ

1) 1 แปลงมี 102 ถาด จำนวนกล้า 10,200 ต้น จ่ายปลูกได้ 4 ไร่ (1 ไร่ = 2,500 ต้น โดยประมาณ)

2) อีเรเซอร์-วัน เป็นยาฆ่าเชื้อแบบเฉียบพลัน ฆ่าเชื้อที่ติดมากับถาดเพาะ, ฆ่าเชื้อที่ติดกับแปลง และเป็นยาฆ่าตะไคร่น้ำและไลเคนส์ ได้ด้วย

3) ไม่ต้องใช้สารเคมีฆ่าแมลง & เพลี้ย และโรคต่างๆ ทุกชนิด

4) กรดอินทรีย์ที่มีอยู่ใน "อีเรเซอร์-วัน", ใน "คาร์บ๊อกซิล-พลัส", ใน "ซาร์คอน" ใน "ซิกน่า" นอกจากมีคุณสมบัติในการเป็นสารกระตุ้นการสร้างภูมิต้านทานโรค (วัคซีนพืช) แล้ว ก็ยังมีคุณสมบัติในการทำหน้าที่กระตุ้นการสร้างระบบเซลล์รากของพืชด้วย

https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=1371947319585161&id=431771140269455

http://www.paccapon.blogspot.com/2015/02/blog-post_94.html

ขั้นตอนต่อไป

นำเบี้ยกล้าที่หว่านไว้ (อายุประมาณ 10-12 วัน) นำมาปักชำในวัสดุเพาะ (Media Peat Moss)

ที่ถูกบรรจุลงไว้ในถาดเพาะกล้าและราดยา "อีเรเซอร์-1" (ยาฆ่าเชื้อแบบเฉียบพลัน ตลอดจนเป็นวัคซีนป้องกันโรคทั้งไวรัส แบคทีเรียและเชื้อรา ) ไว้เรียบร้อยแล้ว

• จากนั้น..

• ทำการฉีดพ่นยาป้องกันโรคเน่า,โรคไวรัสและโรคเชื้อราที่เกิดทางรากและทางใบ (ด้วย "คาร์บ๊อกซิล-พลัสและอีเรเซอร์-1") เพื่อป้องกันโรคต่างๆ ตามโปรแกรมที่วางไว้ทุกๆช่วง 7 วัน

• ทำการฉีดพ่นยาป้องกันแมลงและเป็นวัคซีนพืชด้วยอีกทางเช่นกัน โดยการทำงานแบบขับไล่แมลงและสร้างเกราะป้องกัน (ด้วย "ซิกน่าและซาร์คอน") เพื่อไม่ให้แมลงเข้ามารบกวนหรือเข้ามาทำลาย ตามโปรแกรมที่วางไว้ทุกๆช่วง 7 วัน

• ครบ 10 วัน (หรือใบกล้าเท่ากับเหรียญ 1 บาท)

ก็เริ่มแห้งน้ำในแปลงไว้ล่วงหน้า 2-3 วัน แล้วผสมปุ๋ยเกล็ดลงในถังน้ำตามอัตราที่กำหนด นำไปปล่อยลงในแปลงที่แห้งน้ำไว้แล้ว

• ครบ 15-20 วัน เริ่มตัดใบ (Clipping) ก่อนตัดใบให้แห้งน้ำไว้ล่วงหน้า 1 วัน และฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อ (คาร์บ๊อกซิล-พลัสและอีเรเซอร์-1") เพื่อป้องกันโรคยอดเน่า (Collar rot) ไว้ล่วงหน้า และหลังตัดใบเสร็จ ก็ให้ฉีดยาฆ่าเชื้ออีกรอบ

หมายเหตุ :

1) 1 แปลงมี 102 ถาด จำนวนกล้า 10,200 ต้น จ่ายปลูกได้ 4 ไร่ (1 ไร่ = 2,500 ต้น โดยประมาณ)

2) อีเรเซอร์-วัน เป็นยาฆ่าเชื้อแบบเฉียบพลัน ฆ่าเชื้อที่ติดมากับถาด, ฆ่าเชื้อที่ติดกับแปลง และเป็นยาฆ่าตะไคร่น้ำและไลเคนส์ ด้วย

3) ไม่ต้องใช้สารเคมีฆ่าแมลง & เพลี้ยและโรคต่างๆ ทุกชนิด

https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=1371947319585161&id=431771140269455

http://www.paccapon.blogspot.com/2015/02/blog-post_94.html

https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=1371947319585161&id=431771140269455

เพาะกล้ายาสูบปลอดสารพิษ

กล้าพร้อมแจกจ่าย

เมื่อกล้าอายุจะครบจ่าย ควรมีการฉีดพ่น "วัคซีน" ป้องกันไวรัสโรคใบหด (Tobacco Leaf Curl virus, TLCV) ไวรัสโรคใบด่าง (Tobacco Mosaic Virus, TMV) โรคไวรัสใบด่างแตง (Cucumber Mosaic Virus, CMV) ไวรัสโรคแผลละเอียด (Tobacco Streak Virus, TSV) ไวรัสโรคใบจุดเหี่ยวมะเขียเทศ (Tobacco Spotted With Virus, TSWV) ไวรัสโรคเส้นใบแห้งมันฝรั่ง (potato virus Y, PVY) และไวรัสอื่นๆ (ด้วย "ซิกน่าและซาร์คอน") ล่วงหน้า 5-7 วันก็ได้ ก่อนที่จะจ่ายกล้าให้ชาวไร่ไปปลูกในไร่กัน)

หมายเหตุ :

1) 1 แปลงมี 102 ถาด จำนวนกล้า 10,200 ต้น จ่ายปลูกได้ 4 ไร่ (1 ไร่ = 2,500 ต้น โดยประมาณ)

3) ไม่ต้องใช้สารเคมีฆ่าแมลง & เพลี้ยและโรคต่างๆ ทุกชนิด

https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=1371947319585161&id=431771140269455

http://www.paccapon.blogspot.com/2015/02/blog-post_94.html

..............

วันนี้ 18 กุมภาพันธ์
ได้ออกตรวจไร่ยาสูบที่บ้านนาป่าน
ต. สถาน อ. ปัว จ. น่าน
รุ่นปลูกวันที่ 15 พฤศจิกายน 2560

เพื่อเปรียบเทียบปัญหาปลายใบ
ยายอด 2-3 ใบสุดท้ายเกิดอาการเหลือง

ในพื้นที่ดินนาป่า (ดินนาแพะ) ซึ่งเนื้อดิน
เหมือนกับของเขตบ้านส้าน ต.สถาน
เพื่อหาข้อมูลและสาเหตุต่อไป

..............

22 กุมภาพันธ์ 2561
ติดตามอาการของใบยายอด 2-3 ใบบน
มีอาการปลายเหลือง เพื่อเปรียบเทียบ
หาสาเหตุของอาการผิดปกติที่เกิดขึ้น

ส่วนสภาพอื่นๆ อาทิ การเจริญเติบโต คุณภาพใบยา
ปกติดีทุกอย่าง
สภาพดินปลูก: เป็นดินนาป่า (นาแพะ)

สวนยาของนาย ปัด สุทำแปง
บ้านท่าควาย ต.ไชยวัฒนา อ.ปัว
ปลูก 8 พ.ย. 2560
ถ่าย 22 ก.พ. 2561
อายุต้นยา 3 เดือน 15 วัน

.............

วันที่ 23 ก.พ.2561
ได้ลงตรวจแปลงยาสูบ
ของนายปัด สุทำแปง (อีก 1 แปลง)
บ้านท่าควาย ต.ไชยวัฒนา อ.ปัว

ปลูกยานารุ่นเดือนพฤศจิกายน
วันที่ 12 พ.ย. 2561
อายุยาได้ 3 เดือน 19 วัน

เพิ่งเก็บใบยาไปได้แค่ 2 ครั้ง เท่านั้นเอง
พื้นที่ดินเป็นดินนาป่า (นาแพะ)

ยังพบว่ามีอาการปลายใบยายอดมีสีเหลืองอยู่
ส่วนด้านอื่นๆปกติดี อาทิ การเจริญเติบโต
คุณภาพใบยา สี/ เนื้อดี
รอการเก็บเกี่ยวที่ถูกต้องเท่านั้น

......

จากไร่ (ในวันที่ 23 ก.พ.2561)
สู่โรงรับซื้อใบยา (เก็บเกี่ยวและขาย 25 ก.พ.2561)
ใบยาของ นางอนงค์ คันทะเสน
บ้านป่าหัด ต.ปัว อ.ปัว

รุ่นยานาในพื้นที่นาเนื้อดินดอน (ดินปง)
ใบยาในไร่จะออกสีเหลืองจัด

แต่พอเก็บเกี่ยวออกมาจากต้นแล้ว
ใบยาจะคืนสีเป็นสีเขียวสบันงา (สีกระดังงาแก่)

การเก็บเกี่ยวใบยาที่ถูกต้อง ต้องดูอายุใบยาและลักษณะในการสุกแก่ ของใบยาประกอบควบคู่ไปด้วย
จะดูแค่เพียงสีของใบยาอย่างเดียวไม่ได้

ไม่อย่างนั้นจะเกิดความผิดพลาดสูง

วันนี
วันที่ 23 ก.พ.2561
ได้ลงตรวจแปลงยาสูบ  ของนายรอด วรรณภพ
บ้านท่าควาย ต.ไชยวัฒนา อ.ปัว
ปลูกยานารุ่นเดือนพฤศจิกายน   วันที่ 8 พ.ย. 2561
อายุยาได้ 3 เดือน 15 วัน
เก็บใบยาไปได้ 3 ครั้ง
พื้นที่ดินเป็นดินนาป่า (นาแพะ)
ยังพบอาการปลายใบยายอดเหลืองอยู่  ส่วนด้านอื่นๆปกติดี อาทิ การเจริญเติบโต
คุณภาพใบยา สี/ เนื้อดี รอการเก็บเกี่ยวที่ถูกต้องเท่านั้น

.............

วันนี
วันที่ 23 ก.พ.2561
ได้ลงตรวจแปลงยาสูบ
ของนายสุเทพ ศิริรัตน์
บ้านป่าหัด ต.ปัว อ.ปัว

ปลูกยานารุ่นเดือนพฤศจิกายน
วันที่ 30 พ.ย. 2561
อายุยาได้ 3 เดือน 23 วัน

เก็บใบยาไปได้ 2 ครั้ง (ใบยาตีนและตีนทราย)
พื้นที่ดินเป็นนาดินเอน (ดินปง)

ยังไม่พบอาการปลายใบยายอดเหลือง
ส่วนด้านอื่นๆปกติดี อาทิ การเจริญเติบโต
คุณภาพใบยา สี/ เนื้อดี
รอการเก็บเกี่ยวที่ถูกต้องเท่านั้น

.............................

วันนี้ที่ 23 ก.พ. 2561
ลงตรวจแปลงยาสูบ
ของคุณ สว่าง วรรณภพ
บ้านท่าควาย ต.ไชยวัฒนา อ.ปัว

เป็นยานารุ่นเดือนพฤศจิกายน
(ปลูกวันที่ 29 พ.ย. 2560)
พื้นที่ดินนาป่า (นาแพะ)

ถึงวันนี้ยาอายุ 2 เดือน 25 วัน
เพิ่งจะเก็บยาตีนไปได้เพียงครั้งเดียว
ทั้งนี้เพราะต้นยาเติบโตช้า เพราะว่าโชคร้าย
โดนภัยธรรมชาติถูกน้ำท่วมขังจากน้ำฝน
ที่แช่ต้นยาสูบ 2 ครั้ง นานหลายวัน

เป็นฝนที่หลงเดือน หลงวัน หลงฤดู ที่ตกลงมา
ในวันที่ 25-27 ธ.ค.2560 รวม 3 วันติดกัน
และ..ในวันที่ 5-8 มกราคม 2561 รวม 4 วัน
ตกติดๆกันทุกวันของแต่ละช่วง

ซึ่งอายุยาตอนนั้นยังมีอายุไม่ครบ 1 เดือนเลย
ซึ่งชาวไร่เองก็เกือบจะถอดใจไปแล้ว
แต่ทางโรงบ่มเองก็แนะนำและให้คำปรึกษา
พร้อมแนวทางแก้ไขไป

ในที่สุด..ทุกอย่างก็กลับเข้าสู่ทาง
ด้วยการเจริญเติบโตต่อด้วยสภาพที่สมบูรณ์ปกติ
และไม่เสียหาย ทั้งผลผลิตและคุณภาพของใบยา

เก็บตก

การตรวจไร่ยาสูบ

เมื่อวันที่ 24 ก.พ.2561 ที่ผ่านมา

วันที่พาตัวแทนชาวไร่จาก จ.เชียงราย

มาดูงานปลูกยาสูบที่ อ.ปัว

ยาสูบปลูกวันที่ 21 พ.ย.2560

อายุได้เกือบ 3 เดือนแล้ว

เป็นรุ่นยานา ที่ปลูกในดินนาป่า (นาแพะ)
เป็นดินที่มีความอุดมสมบูรณ์ต่ำ (OM ต่ำ)
โครงสร้างดินไม่ค่อยดี แน่นทึบแข็งเวลาแห้ง
ลักษณะคล้ายดินทรายขาว เวลาเปียกน้ำจะเละ
ต้องเน้นการปรับสภาพโครงสร้างดิน
และจัดธาตุอาหารให้เพียงพอและสมดุลย์
ถึงจะได้ทั้งคุณภาพที่สูงและผลผลิตที่สูง
(สมัยเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ดินประเภทนี้ จะปลูกยาสูบ
ได้ผลผลิตต่ำ แต่คุณภาพจะดี เพราะลักษณะดิน
จะมีธาตุไนโตรเจน (N)ต่ำ แต่มีธาตุโปแตสเซียม (K)
อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม)

..................

24 กุมภาพันธ์ 2561
ลงตรวจไร่ยาสูบ
ของนาย คล้าย ยาปัน
บ้านส้าน ต.สถาน อ.ปัว
รุ่นปลูกยานา วันที่ 21 พฤศจิกายน 2561
อายุยาสูบได้ 3 เดือน 28 วัน
ในพื้นที่ดินนาป่า (นาแพะ)
เก็บเกี่ยวใบยาสดไปได้ 3 ครั้ง (ไม่รวมยาตีนทราย)
เหลือใบยาประมาณต้นละ 10 กว่าใบ
การเติบโตปกติดี เนื้อใบยาหนา เรโชแคบ โรคไม่รบกวน เพราะมีวัคซีนสร้างภูมิคุ้มกัน
การให้อาหารค่อนข้างครบถ้วน (อาจจะมีบางส่วนที่ขาดธาตุบางตัวไม่พอ)
ผลผลิตไม่น่าจะต่ำกว่า 2 กิโลกรัม/ต้น
ต้นที่เสียหายมีน้อยครับ

.........................

ยาสูบรุ่น #รุ่นผ่าฝน
ตลอดระยะเวลา
ตั้งแต่เริ่มต้นปลูกมา ตั้งแต่ปลายเดือนกันยา

แม้ว่า..จะต้องเจออุปสรรคต่างๆนานา
ไม่ว่าจะเป็นดินฟ้าอากาศ
และภัยธรรมชาติหลายอย่างที่เกินคาดคิด
แต่..ก็ผ่านมาได้ และอยู่รอดปลอดภัย

พอมาเห็นต้นยาเจริญเติบโตออกมาดี
ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บรบกวน ให้เสียหาย
จะมีบ้างที่เสียหาย แต่ก็ไม่มากมายนัก

ต้นยาสูบสมบูรณ์ทุกส่วน และให้ผลลัพธ์ที่ดี
มีผลผลิตและคุณภาพที่สูง
เกษตรกรเองก็ได้รับราคาผลผลิตที่ดี
ได้รับราคาที่สูง มีรายได้ที่สูง
ผู้ส่งเสริม-รับซื้อ ก็ได้ผลผลิตที่ดีและคุณภาพที่ดี ตามที่ต้องการ