FB

fbq('track', 'ViewContent');

วันอังคารที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

มหัศจรรย์ “ออร์โธ่ ซิลิซิค แอซิค (Orthosilicic acid)"

มหัศจรรย์ “ออร์โธ่ ซิลิซิค แอซิค (Orthosilicic acid)" 


ปลูกพืชทุกวันนี้ 
ต้องเจอ "สารเคมีที่เป็นพิษ" มากขนาดไหน❓
เพื่อให้ได้เก็บเกี่ยวผลผลิต
อันตรายทั้งผู้ใช้ ผู้บริโภค 👿

.
แต่..ออร์กาเนลไลฟ์ มีทางออก
.
#ทางเบี่ยงเลี่ยงสารพิษ
#BypassChemicalPesticides


▪️แนวทางใหม่ของการผลิตพืชผักแบบปลอดสารพิษ
คนใช้ปลอดภัย คนบริโภคปลอดสารพิษ

▪️ เมื่อใช้ “ซาร์คอน” (SARCON) :
- ต้นแกร่ง
- ผนังใบแข็ง
- แมลงเจาะยาก
- เชื้อโรคเจาะยาก
- ต้นไม่ล้มง่าย
- แล้งไม่กลัว
- หนาวไม่เกี่ยง


ซาร์คอน : เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรด “ซิลิซิค แอซิด” (H4SIO4) และกรด “ซาลิไซลิค (2-hydroxylbenzoic acid)


▪️กรดซิลิซิค แอซิด (H4SIO4) คือ ซิลิคอน โมเลกุลเดี่ยว ที่ละลายน้ำได้ พืชสามารถนำไปใช้ได้ทันทีโดยลำเลียงผ่านทางรากและดูดซับเข้าทางใบช่วยป้องกัน การเข้าทำลายของเชื้อโรคและแมลง เช่น ไร เชื้อรา หนอน ทำให้ผลผลิตมีคุณภาพดี ผลผลิตเก็บได้ทน พืชผัก ผลไม้ มีโครงสร้างดี กรอบ อร่อย เป็นที่ต้องการของตลาด ช่วยลดการใช้สารเคมี ยาฆ่าแมลงได้ ตลอดจนลดต้นทุนการผลิตด้วย



▪️กลไกการทำงานของกรดซิลิซิค แอซิค ใน“ซาร์คอน” (SARCON)

1. เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการส่งสัญญาณระหว่างพืชอาศัยและเชื้อโรคเร็วขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้พืชแสดงอาการโต้ตอบการเข้าทำลายของเชื้อ (Plant Defense Mechanism) เร็วขึ้น ปกติเวลาพืชถูกเชื้อเข้าทำลาย จะมีการป้องกันตัวเอง เช่น มีการสะสม Phenolics compound หรือ สารอัลคาลอยด์ บางตัว และสารประกอบเหล่านี้จะไปยับยั้งการเจริญของเชื้อรา (Fungistatic Activity) ได้

2. เป็นสิ่งกีดขวาง (Physical Barrier) ป้องกันการแทงผ่านของเส้นใยเชื้อรา (Hypal Penetration) เพราะ ”ซิลิสิค แอซิค” จะสะสมอยู่บริเวณ Cell wall นั่นเอง

▪️คุณประโยชน์ ของ “ซาร์คอน”

1. ส่งเสริมการเจริญเติบโตของพืชสวน เช่น พืชตระกูลส้ม ตระกูลแตง และกุหลาบ เป็นต้น ซึ่งจะมีการสะสม “ซิลิซิค แอซิค” หรือ “ซิลิคอน” ในเนื้อเยื่อส่วนยอดอ่อน
2. ช่วยลดความเครียดของพืชเนื่องมาจากแมลงศัตรูพืช หรือสภาพแวดล้อม เป็นต้น
3. ซิลิซิค แอสิค ถูกดูดซึมไปอยู่ส่วนของ Apoplast ของเชลล์ใบ ซึ่งจะทำให้เชลล์แข็งแกร่ง โดยเฉพาะในต้นข้าว และเป็นสิ่งกีดขวางต่อต้านการเข้าทำลายของเชื้อโรค
4. ช่วยลดปริมาณการใช้สารเคมีป้องกันกำจัดเชื้อรา (Fungicide) ให้น้อยลง ผลผลิตที่ได้รับจึงสูงขึ้น

▪️วิธีใช้ และอัตราการใช้
- พืชสวน กรณีลดความรุนแรงของโรคที่เกิดจากเชื้อรา เช่น พิเทียม ไรซอกโทเนีย สเคอร์โรเทียม ไฟท๊อปเธอร่า ใน องุ่น พืชตระกูลแตง มะเขือเทศ ผักกาดขาว เป็นต้น ใช้ “ซาร์คอน” อัตรา 20 ซีซี. (2 ช้อนแกง) ต่อน้ำ 20 ลิตร (1 ปี๊บ) ฉีดตอนเย็นช่วงแดดอ่อนๆ ทุกๆ 5-7 วัน กรณีพบการระบาดมากกว่า 50 % อาจใช้สารเคมีเบรคหรือยับยั้งซักครั้งหนึ่งก่อนก็ได้ แล้วค่อยฉีดพ่น “ซาร์คอน” ตามอัตราส่วนที่แนะนำ เพื่อป้องกันการเข้าทำลายของเชื้อโรคอีก
- ไม้ผล เช่น ส้ม มะนาว ทุเรียน ลำไย ลิ้นจี่ มะม่วง เงาะ เป็นต้น ใช้ “ซาร์คอน” อัตรา 20 ซีซี. (2 ช้อนแกง) ต่อน้ำ 20 ลิตร (1 ปี๊บ) ฉีดพ่นทั่วต้น ทั้งบนใบใต้ใบให้เปียกชุ่มโชก ฉีดพ่นตอนเย็นช่วงแดดอ่อนๆ ทุกๆ 5-7 วัน
- พืชผัก ถั่วต่างๆ กะหล่ำปลี-ดอก คะน้า ผักชี แตงกวา เป็นต้น ไม้ดอก-ไม้ประดับ เช่น กุหลาบ มะลิ ดาวเรือง เบญจมาศ เป็นต้น อัตรา 20 ซีซี. (2 ช้อนแกง) ต่อน้ำ 20 ลิตร (1 ปี๊บ) ฉีดพ่นให้ทั่วต้น ทั้งบนใบและใต้ใบให้เปียกชุ่มโชก ฉีดพ่นตอนเย็นช่วงแดดอ่อนๆ ทุก 5-7 วัน

▪️คำแนะนำ
- สร้างความแข็งแกร่งให้แก่พืชคือ แนวทางใหม่
ของการผลิตพืชผักแบบปลอดสารพิษ คนใช้
ปลอดภัย คนบริโภคปลอดสารพิษ

**กรณีพ่นทางใบ ถ้าได้ใช้ร่วมกับ #ซิกน่า ยิ่งดี เสมือนมีเกราะป้องกัน 2 พลัง

———————————————————-

ซิลิคอน กับ ซาร์คอน (กลไก)


ในใบพืช ซิลิคอนจะสะสมมากในชั้นผนังเซลล์ของเซลล์ผิวนอกชนิดต่าง ๆ (epidermal cells) ได้แก่ bulliform cell, Cork cell, guard cell, long cell, micro-hair, prickle hair, silica cell, subsidiary cell และสะสมน้อยในเซลล์ชั้นกลาง (mesophyll cells) และระบบท่อลำเลียง (vascular bundle cells) และระบบท่อลำเลียง (vascular bundle cells)
ซิลิคอน : ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงปกป้องการบุกรุกของศัตรูพืชและสภาพแวดล้อมเลวร้ายต่าง ๆ ปกติพืชได้รับ Silicon ทีละน้อยจากการดูดซึมทางรากและเคลื่อนย้ายไปยังผนังเซลล์ที่สะสมซิลิคอน เมื่อถูกกระตุ้นซิลิคอนจะรวมตัวกันเป็นชั้นโพลิเมอร์ในผนังเซลล์ในรูป Silicon – Cellulose membrane ช่วยทำให้ผนังเซลล์แข็งแรงขึ้นเพื่อป้องกันตนเอง มีส่วนผสมของกรดซิลิซิคหรือซิลิคอนในรูปที่ละลายน้ำได้ และสามารถซึมผ่านเข้าไปในพืชได้ง่ายและรวดเร็ว เป็นสารช่วยสร้างความต้านทานโรคและแมลงให้แก่พืช โดยกรดซิลิซิคในรูปที่ออกฤทธิ์ได้ (Orthosilicic acid) จะช่วยเสริมสร้างโครงสร้างพืชให้แข็งแรงโดยเฉพาะในชั้นเซลล์ผิวนอก(Epidermis) กรดซิลิซิคสะสมในผนังเซลล์และจะรวมตัวเป็นชั้น โพลิเมอร์ (Polymer) ปกป้องพืชเมื่อถูกกระตุ้นจากการบุกรุกของโรคและแมลง กรดซิลิซิคยังช่วยทำลายพิษที่ได้รับจากศัตรูพืชและยังช่วยส่งเสริมการสังเคราะห์และการออกฤทธิ์ของสารต้านทานโรคและแมลงที่พืชสร้างขึ้นเองเช่น phytoalexins, flavonoids เป็นต้น

กรดซิลิซิคที่รวมตัวกันเป็นชั้นของโพลิเมอร์( Layer of Polymers) เพื่อปกป้องพืช ก็ยังทำหน้าที่ในการทำให้พืชทนทานต่อสภาวะเครียดต่างๆ จาก ความแห้งแล้ง ความร้อน ความหนาวเย็น ความเค็มของดิน ฯลฯ ได้ดี ทำให้พืช ทนแล้ง ทนร้อน ทนหนาว ทนเค็มได้ดี อีกทั้งยังช่วยลดปัญหาดินเปรี้ยวและรักษาความชุ่มชื้นในดินได้ ช่วยให้รากพืชแข็งแรง หาอาหารได้เก่ง ตลอดจนคุณสมบัติอีกอย่างที่กรดซิลิซิคสามารถทำหน้าที่ได้ดีคือการปลดปล่อยธาตุอาหารที่ตกค้างในดินโดยเฉพาะฟอสเฟต และจับยึดสารพิษตกค้างในดินบางชนิดไม่ให้ถูกดูดซึมเข้าสู่พืชและไปทำลายพืช


"กระบวนการสร้างเกราะป้องกัน" ด้วย "Orthosilisic acid" ที่แตกตัวเป็นสารในรูป "Polymer" และเข้าสู่กระบวนการ " Polymerization" จนเปลี่ยนรูปเป็นสาร "Colloids" และเข้าสู่กระบวนการ "Agglomeration" เพื่อเปลี่ยนรูปให้เป็นผลึกแข็ง (Colloids Aggregrate) และถูกเคลื่อนย้ายไปที่ "ผนังเซลล์" (Cell Walls) ต่อไป ผนังเซลล์ก็จะแข็งเสมือนมี "ผนังคอนกรีต" นั่นเอง





ซิลิคอนกับการเจริญเติบโตของพืช
 แม้ว่าซิลิคอนจะไม่ใช่ธาตุอาหารหลักของพืช แต่ได้มีการพิสูจน์ในเชิงวิชาการแล้วว่า ซิลิคอนมีผลต่อการเจริญเติบโตดังนี้จากการวิจัย เราจะพบว่า การเพาะปลูกพืชในเชิงพาณิชย์ เช่น ข้าวโพด อ้อย ฯลฯ จะมีการขนย้ายซิลิคอนออกจากพื้นที่เพาะปลูกประมาณ 5-30 กิโลกรัม ต่อไร่ ต่อฤดูการเพาะปลูก แม้ว่าในดินเองจะมีซิลิคอนในปริมาณสูง แต่การปลูกพืชชนิดเดียวกันเป็นเวลานานๆ อาจทำให้ปริมาณซิลิคอนในดินเปลี่ยนรูป มาอยู่ในรูปแบบที่เป็นประโยชน์กับพืชได้ไม่เพียงพอ ทำให้มีผลต่อการเจริญเติบโตของพืช จากงานวิจัยเราจะพบว่า กรดออร์โธ่ซิลิคอนของซาร์คอน มีผลต่อการเจริญเติบโตของพืชดังนี้

1. กรดออร์โธ่ซิลิคอนของซาร์คอน จะทำให้ผนังเซลล์ของพืชแข็งแรง ลำต้นไม่หัก ล้มง่าย ผนังเซลล์ที่แข็งแรงทำให้แมลงเจาะดูดน้ำเลี้ยงได้ยากลำบากขึ้น

2. ในพืชตระกูลหญ้า เช่น ข้าว อ้อย เมื่อได้รับกรดออร์โธ่ซิลิคอนของซาร์คอนจะทำให้โครงสร้างใบ แข็งแรง ใบจะตั้งขึ้น ทำให้รับแสงแดดได้เต็มที่ ขณะเดียวกันสารละลายกรดออร์โธ่ซิลิคอนของซาร์คอนที่ฉีดพ่น เมื่อแห้งจะเคลือบใบพืชไว้ ทำให้โรคต่าง ๆ ไม่สามารถเข้าทำลายใบพืชได้

3. กรดออร์โธ่ซิลิคอนของซาร์คอนจะปลดปล่อยฟอสฟอรัสในดิน ให้อยู่ในรูปที่พืชสามารถนำไปใช้ได้ ดังนั้น หลังจากฉีดพ่นกรดออร์โธ่ซิลิคอนของซาร์คอน พืชจะสร้างรากใหม่ และเสริมสร้างระบบรากให้ซับซ้อนขึ้น

4. กรดออร์โธ่ซิลิคอนของซาร์คอน ที่แทรกอยู่ในโครงสร้างใบ จะทำให้แสงผ่านใบได้น้อยลง หรือใบพืชดักจับแสงได้มากขึ้น ทำให้อัตราสังเคราะห์แสงเพิ่มขึ้นใบมีสีเขียวขึ้น

5. กรดออร์โธ่ซิลิคอนของซาร์คอน จะมีองค์ประกอบของโปแตสเซียมไอออนซึ่งกระตุ้นการลำเลียงอาหารภายในต้นพืช การสังเคราะห์แสงที่ดี ลำเลียงอาหารดีและระบบรากที่ดี จะส่งผลให้พืชเจริญเติบโตเร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

6. กรดออร์โธ่ซิลิคอนของซาร์คอน สามารถดูดซับพิษของโลหะในดิน เช่นโซเดียม อลูมิเนียม แมงกานีส ฯลฯ ได้

7. กรดออร์โธ่ซิลิคอนของซาร์คอน จะเคลือบใบ ทำให้พืชคายน้ำน้อยลงทำให้พืชสามารถทนต่อสภาพอากาศร้อนและแห้งแล้งได้นานขึ้น และมากกว่าพืชปกติ

เมื่อพืชได้รับ "ซาร์คอน" (SARCON) ในใบพืช ซิลิคอนจะสะสมมากในชั้นผนังเซลของเซลผิวนอกชนิดต่าง ๆ (epidermal cells) ได้แก่ bulliform cell, Cork cell, guard cell, long cell, micro-hair, prickle hair, silica cell, subsidiary cell และสะสมน้อยในเซลชั้นกลาง
(mesophyll cells) และระบบท่อลำเลียง (vascular bundle cells) และระบบท่อลำเลียง (vascular bundle cells) ซิลิคอนช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงปกป้องการบุกรุกของศัตรูพืชและสภาพแวดล้อมเลวร้ายต่าง ๆ ปกติพืชได้รับ Silicon ทีละน้อยจากการดูดซึมทางรากและเคลื่อนย้ายไปยังผนังเซลที่สะสมซิลิคอน เมื่อถูกกระตุ้นซิลิคอนจะรวมตัวกันเป็นชั้นโพลิเมอร์ในผนังเซลในรูป silicon – cellulose membrane ช่วยทำให้ผนังเซลแข็งแรงขึ้นเพื่อป้องกันตนเอง

มีส่วนผสมของกรดซิลิซิคหรือซิลิคอนในรูปที่ละลายน้ำได้ และสามารถซึมผ่านเข้าไปในพืชได้ง่ายและรวดเร็ว เป็นสารช่วยสร้างความต้านทานโรคและแมลงให้แก่พืช โดยกรดซิลิซิคในรูปที่ออกฤทธิ์ได้ (Orthosilicic acid) จะช่วยเสริมสร้างโครงสร้างพืชให้แข็งแรงโดยเฉพาะในชั้นเซลล์ผิวนอก(Epidermis) กรดซิลิซิคสะสมในผนังเซลล์และจะรวมตัวเป็นชั้นโพลิเมอร์(polymer)ปกป้องพืชเมื่อถูกกระตุ้นจากการบุกรุกของโรคและแมลง กรดซิลิซิคยังช่วยทำลายพิษที่ได้รับจากศัตรูพืชและยังช่วยส่งเสริมการสังเคราะห์และการออกฤทธิ์ของสารต้านทานโรคและแมลงที่พืชสร้างขึ้นเองเช่น phytoalexins, flavonoids เป็นต้น


กรดซิลิซิคที่รวมตัวกันเป็นชั้นของโพลิเมอร์( Layer of Polymers) เพื่อปกป้องพืช ก็ยังทำหน้าที่ในการทำให้พืชทนทานต่อสภาวะเครียดต่างๆ จาก ความแห้งแล้ง ความร้อน ความหนาวเย็น ความเค็มของดิน ฯลฯ ได้ดี ทำให้พืช ทนแล้ง ทนร้อน ทนหนาว ทนเค็มได้ดี อีกทั้งยังช่วยลดปัญหาดินเปรี้ยวและรักษาความชุ่มชื้นในดินได้ ช่วยให้รากพืชแข็งแรง หาอาหารได้เก่ง ตลอดจนคุณสมบัติอีกอย่างที่กรดซิลิซิคสามารถทำหน้าที่ได้ดีคือการปลดปล่อยธาตุอาหารที่ตกค้างในดินโดยเฉพาะฟอสเฟต และจับยึดสารพิษตกค้างในดินบางชนิดไม่ให้ถูกดูดซึมเข้าสู่พืชและไปทำลายพืช
การใช้กรดออร์โธ่ซิลิคอนในนาข้าว

 ความเป็นมาและความสำคัญของ ซิลิคอนในวัฏจักรของข้าว การใช้และประโยชน์ของซิลิคอน
ซิลิคอน คือ ซิลิคอน (Si) เป็นธาตุที่มีมากเป็นอันดับสองของโลก รองจากออกซิเจน เราจึงพบซิลิคอนในพืชเกือบทุกชนิดรวมทั้งในดินเองก็มีซิลิคอนเป็นองค์ประกอบหลัก และนี้คือความสำคัญของซิลิคอนในวัฏจักรของข้าว

 การนำซิลิคอนไปใช้ของพืช จะต้องถูกดูดซึมทางรากและใบ โดยซิลิคอนจะละลายอยู่ในน้ำ และถูกดูดซึมไปกับน้ำในระบบการหาอาหารของพืช แม้ว่าซิลิคอนจะพบมากในดิน แต่ส่วนใหญ่จะเป็นซิลิคอนในรูปแบบที่ไม่ละลายน้ำ รูปแบบของซิลิคอนที่ไม่ละลายน้ำ และพบเห็นกันบ่อย ๆ ก็คือ ทราย กระจก แผ่นเซลแสงอาทิตย์ แร่หินบางชนิด การเปลี่ยนซิลิคอนในรูปแบบที่ไม่ละลายน้ำ ให้สามารถละลายน้ำได้ โดยกลไกของธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นการสลายตัว หรือ การย่อยของจุลินทรีย์จะใช้เวลานานมาก ดังนั้นการปลูกพืชซ้ำ ๆ ติดต่อกันเป็นเวลานานๆ อาจทำให้ซิลิคอนขาดแคลนได้

ข้าวเป็นพืชที่ต้องการซิลิคอนจำนวนมาก
 ในแกลบมีปริมาณซิลิคอนสะสมอยู่มาก หรืออีกนัยหนึ่งคือ ข้าวเป็นพืชที่ต้องการซิลิคอนปริมาณมาก เพื่อให้เข้าใจถึงปริมาณของซิลิคอนในข้าว ถ้าเกษตรกรเคยสังเกต การเผาแกลบจะพบว่ามีขี้เถ้าเหลืออยู่จำนวนมาก เมื่อเทียบกับเถ้าของการเผาถ่าน หรือกิ่งไม้ เถ้าที่เหลืออยู่นี้แหละคือซิลิคอน
 เคยมีการคำนวณเรื่องปริมาณซิลิคอนในนาข้าว พบว่าในข้าวเปลือก 1 ตัน มีองค์ประกอบที่เป็นแกลบอยู่ประมาณ 250 กิโลกรัม ในจำนวนนี้ จะเป็นปริมาณซิลิคอนมากกว่า 40 กิโลกรัม ถ้าผลผลิตต่อไร่ประมาณ 600 กิโลกรัมต่อไร่ จะพบว่าทุกครั้งที่มีการเก็บเกี่ยว ซิลิคอนถูกขนย้ายออกจากพื้นนา มากกว่า 24 กิโลกรัม/ครั้ง ถ้านับตั้งแต่เริ่มเพาะปลูก ปริมาณซิลิคอนที่ถูกขนย้ายออกมา จะมีปริมาณมหาศาล แม้ว่าซิลิคอนจะไม่ใช่ธาตุอาหารหลัก แต่ก็เป็นสารอาหารที่มีความสำคัญในสร้างโครงสร้างและลำเลียงอาหารของพืช การขาดแคลนซิลิคอนจะทำให้ข้าวอ่อนแอง่ายต่อการเข้าทำลายของโรคและแมลง และการให้ปริมาณซิลิคอนที่มากพอจะทำให้ข้าวแข็งแรงเร็วขึ้นสอดคล้องกับปริมาณโรคและแมลง ที่มีการระบาดรุนแรงขึ้นในปัจจุบัน และการให้ซิลิคอนในปริมาณที่เหมาะสมจะกระตุ้นการสังเคราะห์แสงของข้าว         ทำให้ผลผลิตต่อไร่เพิ่มขึ้น

ประโยชน์ของซิลิคอน
 ได้มีการทำวิจัยแล้ว จากหลายสถาบัน ว่าซิลิคอนมีประโยชน์ในการเจริญเติบโตของพืช ซึ่งจะกล่าวโดยกว้าง ๆ สำหรับพืชทั่วไป และจะได้ชี้ให้เห็นคุณประโยชน์เมื่อใช้ในนาข้าวต่อไป

1. ซิลิคอน ช่วยปลดปล่อยฟอสฟอรัส ในดินให้พืชสามารถใช้งานได้ ความจริงฟอสฟอรัสในดินมีปริมาณมาก แต่ภาวะดินเปรี้ยว และการใช้สารเคมีเชิงซ้อนปริมาณมาก ทำให้ฟอสฟอรัสในดินส่วนใหญ่ อยู่ในรูปที่พืชไม่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้การให้ซิลิคอนกับพืช จึงทำให้ใช้ประโยชน์จากฟอสฟอรัสในดินอย่างคุ้มค่า ฟอสฟอรัสเป็นธาตุอาหารหลัก เกี่ยวข้องกับระบบรากและยอดอ่อน

2. ซิลิคอนที่พืชได้รับ จะถูกเปลี่ยนรูปเป็นของแข็งสะสมอยู่ตามผนังเซลล์ทำให้โครงสร้างต่าง ๆ ของพืชแข็งแรง แมลงเจาะน้ำเลี้ยงได้ยากลาบาก โรคต่าง ๆ โดยเฉพาะที่เกิดจากเชื้อรา เข้าทำลายพืชได้ยากขึ้น

3. โครงสร้างที่แข็งแรง ทำให้ใบตั้งและรับแสงได้ดีขึ้น ใบกว้างขึ้น และแสงผ่านใบได้น้อยลง อัตราการสังเคราะห์แสงของพืชจะเพิ่มขึ้น

4. ซิลิคอน ช่วยดูดซับพิษจากโลหะ เช่น อลูมิเนียม สนิมเหล็ก โซเดียม มังกานีส

5. กรดออร์โธ่ ซิลิคอน ที่ฉีดพ่น จะเคลือบใบพืช ทาให้พืชคายน้ำน้อยลงนั่นคือ พืชจะทนต่อสภาพแห้งแล้งจากภาวะที่อากาศร้อนจัดได้ดีกว่าพืชปกติดังที่ได้ทราบข้างต้นแล้วว่า ซิลิคอนมีผลต่อการเจริญเติบโตของพืช โดยเฉพาะข้าว ในเกษตรกรรมของประเทศที่เจริญแล้วเช่น ญี่ปุ่น มีการใช้ซิลิคอน เพื่อเพิ่มผลผลิตในนาข้าวกันอย่างกว้างขวาง แต่ซิลิคอนเหล่านั้นส่วนใหญ่ได้มาจากส่วนเหลือในอุตสาหกรรม ซึ่งการควบคุมเรื่องสารตกค้าง หรือสิ่งเจือปนเป็นไปได้ยากลำบาก



ซิลิคอนในนาข้าว
 ข้าวเป็นพืชที่ต้องการปริมาณซิลิคอนมาก (มากกว่า 24 กิโลกรัม/ไร่/รอบเพาะปลูก) โดยกลไกของธรรมชาติ ซิลิคอนจะกลับสู่วัฏจักรของข้าวโดยการย่อยสลายของจุลินทรีย์ ทั้งนี้ต้องมีการนำแกลบกลับเข้าไปยังพื้นนาด้วย กรดออร์โธ่ซิลิคอนของซาร์คอน เป็นสารละลายซิลิคอน จึงปราศจากสารตกค้าง และด้วยกรรมวิธีสกัดอันเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของซาร์คอน ทำให้กรดออร์โธ่ซิลิคอนที่ได้ บริสุทธิ์และถูกดูดซึมโดยข้าวได้ทันทีทั้งทางรากและใบ ทำให้เห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็วส่งผลให้ผลผลิตเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน เมื่อข้าวได้รับกรดออร์โธ่ซิลิคอน จะเห็นการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ เกิดขึ้นดังนี้
1. ใบข้าวจะเขียวตั้งขึ้น และกว้างขึ้น การเปลี่ยนแปลงดังกล่าว จะเกิดขึ้นหลังฉีดพ่น กรดออร์โธ่ซิลิคอนแล้ว เพียง 7 วันเมื่อกรดออร์โธ่ซิลิคอนเริ่มสะลมอยู่ในใบ และลำต้นข้าวมากพอจะทำให้ผนังเซลล์แข็งแรงขึ้น   ใบข้าวตั้งและทึบแสงขึ้น ทำให้รับแสงได้เต็มที่ ใบที่กว้างขึ้น ทำให้อัตราการสังเคราะห์แสงเพิ่มขึ้น

2. ในพื้นนาที่มีข้าวต้นเล็กต้นใหญ่ ซึ่งอาจเกิดจากระดับน้ำที่ไม่เท่ากัน เมื่อข้าวใบตก จะเกิดการบังแสงกันเองของต้นข้าว ข้าวต้นเล็กจะยิ่งเจริญเติบโตช้า เนื่องจากแสงแดดจะออกรวง เมื่อข้าวส่วนใหญ่ถูกเก็บเกี่ยวไปแล้ว เมื่อข้าวใบตั้งจะทำให้ต้นข้าวได้รับแสงแดดอย่างทั่วถึง ทำให้ข้าวออกรวงพร้อม ๆ กันส่งผลให้ผลผลิตต่อไร่เพิ่มขึ้น

3. ผนังเซลล์ที่หนาขึ้น เพราะมีซิลิคอนสะสมอยู่ นอกจากจะทำให้ใบตั้งแล้ว ยังทำให้ใบและลำต้นเหนียว   ทำให้แมลงดูดซึมน้ำเลี้ยงได้ยากขึ้น การฝังสปอร์ของเชื้อราก็ทำได้ยากเช่นกัน และยังมีรายงานว่าต้นอ่อนของข้าวที่ได้รับกรดออร์โธ่ซิลิคอน จะมีความทนทานต่อหอยเชอรี่ได้มากขึ้นด้วย

4. เมื่อดินได้รับกรดออร์โธ่ซิลิคอนจะปลดปล่อยฟอสฟอรัสออกมาในพื้นนาที่เสื่อมโทรมมาก ๆ จากสภาพดินเปรี้ยว จะเห็นว่ามีการเกิดรากใหม่และแตกกอ หลังจากฉีดพ่นสารเพียง 5 วัน

5. การให้กรดออร์โธ่ซิลิคอน ในปริมาณที่มากพอจะทำใหปุ๋ย ละลายช้าลง เป็นการใช้ปุ๋ยอย่างเต็มประสิทธิภาพ

6. กรดออร์โธ่ซิลิคอน ที่ฉีดพ่น บางส่วนจะเคลือบใบข้าว ทาให้พืชคายน้ำลดลง ในช่วงกลางวันที่อากาศร้อนจัด ต้นข้าวจะยังคงดูสดชื่น เมื่อเทียบกับแปลงที่ไม่ได้ฉีด

7. การสังเคราะห์แสงดี ระบบรากยาว มีรากสีขาวมาก จะทำให้ต้นข้าวเจริญเติบโตกว่าแปลงที่ไม่ได้ฉีดอย่างเห็นได้ชัด การฉีดพ่นกรดออร์โธ่ซิลิคอนในระยะก่อนตั้งท้องจะกระตุ้นให้ข้าวออกรวงพร้อม ๆ กัน จากการทดลองจะพบว่าแปลงที่มีการใช้กรดออร์โธ่ซิลิคอน อย่างสม่ำเสมอตั้งแต่ข้าวยังเล็กข้าวจะออกรวงเร็วกว่าแปลงปกติ 5-10 วัน

8. การทำนาที่ให้ผลผลิตต่อไร่สูง ๆ ปริมาณไนโตรเจนที่ใส่ในนาข้าวต้องมีปริมาณที่มากพอ แต่โดยกลไกของธรรมชาติ การใส่ปุ๋ยไนโตรเจนในปริมาณสูง ทำให้ข้าวเจริญเติบโตดีแต่ละต้นจะอวบน้ำ ผนังเซลล์บาง ทำให้โรคและแมลงเข้าทำลายได้โดยง่ายลำต้นอ่อน หักล้มง่าย การให้กรดออร์โธ่ซิลิคอนจึงเป็นคำตอบของการเพิ่มผลผลิตต่อไร่ การใช้ซิลิคอนสะสมในตัวข้าวมากพอ ทำให้การให้ปุ๋ยกลุ่มไนโตรเจนปริมาณสูง ๆ โดยไม่ทำอันตรายต่อต้นข้าว เกษตรกรจึงควรให้ปุ๋ยกลุ่มไนโตรเจนในระยะก่อนตั้งท้องและหางปลาทู เพื่อให้ข้าวออกเต็มรวงเมล็ดสมบูรณ์

9. ดังได้กล่าวมาข้างต้น เมื่อกรดออร์โธ่ซิลิคอนแห้ง จะทาตัวเป็นแผ่นฟิมล์บาง ๆ ในระยะน้ำนมเมื่อฉีดกรดออร์โธ่ซิลิคอน แผ่นฟิล์มดังกล่าวจะเคลือบให้สูญเสียน้ำน้อยลง เมล็ดจึงแกร่ง ได้ น้ำหนักดี



ดูข้อมูลซาร์คอนเพิ่มเติม
http://paccapon.blogspot.com/2016/11/blog-post.html?m=0
.





================
ข้อมูลเพิ่มเติมสอบถามหรือปรึกษาได้นะครับ
☎️:084 - 8809595 , 084-3696633
(โทร. จ-ศ 9.30-18.00 ,ส 9.30-12.00)

📲Line id : @organellelife.com (พิมพ์ @ ด้วยนะครับ)

หรือคลิ๊กลิงค์ไลน์ด้านล่าง เพื่อสอบถามข้อมูลและขอคำแนะนำ หรือสั่งซื้อได้
https://lin.ee/nTqrAvO  

#รับตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ

เว็บไซด์ www.organellelife.com

วันจันทร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

ทางเบี่ยงเลี่ยงสารพิษ BypassChemicalPesticides

ทางเบี่ยงเลี่ยงสารพิษ 
BypassChemicalPesticides

▪️ซิกน่า : ZIGNA
สารชักนำให้เกิดการสร้างภูมิต้านทานโรคและแมลง


▪️การป้องกันตนเองของพืช
(Plant Defense Response)

1. การป้องกันทางกายภาพ (Physical Barriers)
- Preformed (มีอยู่แล้วในพืชที่สภาพปกติ) ได้แก่Leaf hairs, Waxy cuticles, Actin microfilament, ect.
- Induced (สร้างเมื่อถูกกระตุ้น)Cell wall Strengthening, Lignification, Cell death, etc

2. การป้องกันทางเคมี (Chemical Defenses)
- Preformed (มีอยู่แล้วในพืชที่สภาพปกติ) ได้แก่
สารที่มีฤทธิ์ต้านเชื้อโรคชนิดต่างๆ อาทิเช่น Alkaloids, Saponins, Terpenoids ในน้ำยาง เป็นต้น
- Induced (สร้างเมื่อถูกกระตุ้น)
1) Local Resistance อาทิ Phytoalexins, NO, ROI, etc.
2) Systemic Resistance (Signaling Defense) อาทิ SAR, ISR, SWR เป็นต้น




Plant Systemic Defenses
ลักษณะการเกิดภูมิต้านทานไปทั่วทั้งต้น (Systemic Resistance) ภายในพืช โดยการส่งสัญญาณที่สำคัญแบ่งออกเป็น 3 ชนิด ได้แก่

1. Systemic Acquired Resistance (SAR)
กระตุ้นโดยเชื้อโรคเข้าทำลาย (Pathogen Attack) ส่งสัญญาณทาง SA-Signaling Pathway

2. Induced Systemic Resistance (ISR)
กระตุ้นโดย Plant Growth Promoting Rhizobacteria (PGPT) ส่งสัญญาณทั้ง JA-Signaling Pathway และ SA-Signaling Pathway

3. Systemic Wound Response (SWR)
กระตุ้นโดย Herbivores และแมลง เข้าทำลาย ส่งสัญญาณทาง JA-Signaling Pathway



Cell Signaling in Resistance
(การส่งสัญญาณเซลล์เพื่อป้องกันตนเองของพืช)

1. ต้องมีสารชักนำ (Elicitors) ให้เกิดสัญญาณ ซึ่งจะขึ้นอยู่กับชนิดของตัวกระตุ้นหรือสายพันธ์เชื้อโรคบางชนิด ปล่อยสารชักนำ (Elicitors) ไปยังพืชที่มีตัวรับสัญญาณ (Receptor) ที่เข้ากันได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับสายพันธุ์พืช ทำให้สามารถรับรู้สารชักนำ (Elicitors) นั้นๆ และเกิดสัญญาณเซลล์ขึ้นได้

2. การรับรู้ที่เกิดขึ้น ทำให้พืชสร้างสารส่งสัญญาณ (Messengers) ไปยังเซลล์อื่นๆทั่วทั้งต้น ที่ยังไม่ถูกบุกรุก สารส่งสัญญาณ (Messengers) ที่สำคัญได้แก่ Salicylic acid (SA), Jasmonic acid (JA) และอื่นๆ

3. การรับรู้ที่เกิดขึ้น ยังทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงและตอบสนองของเซลล์ต่อการถูกบุกรุก

4. การรับรู้ที่เกิดขึ้น ได้ส่งสัญญาณให้ Defense genes สร้างสารต่อต้านการบุกรุกต่างๆขึ้นมา

ข้อสังเกต : Nonhost Plant และ Host Plant ที่ต้านทานโรค จะมีผนังเซลล์ที่สามารถรับรู้การถูกบุกรุกจากสารชักนำ (Elicitors) ของเชื้อโรค ชนิดหนึ่งๆ ได้ ขณะที่พืชไม่ต้านทานโรคจะไม่สามารถรับรู้สารชักนำ (Elicitors) ของเชื้อโรคนั้นๆได้






กลไกการทำงานของ ซิกน่า (ZIGNA)

JA-Signaling Pathway

1. เกิดจากชิ้นส่วนผนัง Cell Wall ของพืชที่ถูกทำลายโดยเชื้อโรคหรือแมลงได้เป็น Oligosaccharides, Systemin หรือสารชักนำ (Elicitors) ไปจับกับ Receptors ของพืชที่ผนัง Cell Membrane ทำให้พืชย่อยสลายไขมันของผนังเซลล์ และเปลี่ยน Linoleic acid เพื่อสังเคราะห์เป็น Jasmonic acid ซึ่งจะเป็นสารส่งสัญญาณระหว่างเซลล์ไปทั่วทั้งต้น และกระตุ้นให้ Plant Defense genes สร้างสารหลายๆชนิดออกมาเพื่อต่อต้านโรคและแมลง

2. ในกรณี ISR โมเลกุลรูปแบบของเชื้อโรค (PAMPs) ที่อยู่ในผนังเซลล์ด้านนอกของ PGRP จะเป็นสารชักนำ (Elicitors)

3. เอนไซม์ในน้ำลายหรือสารหลั่งของแมลงบางชนิดอาจจะย่อยสลาย Linoleic acid ไปเป็น Jasmonic acid (JA) ได้โดยตรง



.......................................................................

JA-Signaling Pathwayกับการต่อต้านเชื้อโรค

1. สารต่อต้านเชื้อโรคเป็นลักษณะ Broad Spectrum ออกฤทธิ์ได้ดีกับ Necrotrophic Pathogens ทุกชนิด

2. สารต่อต้านเชื้อโรคประกอบด้วย Defense Proteins หลายชนิดเช่น Defensins, Basic PR-Proteins, Hevein-like Proteins, Thionins,etc.

3. PR-Proteins เหมือน SAR แต่เป็น Basic PR-Proteins และอยู่ในช่องว่างในเซลล์ (Vacuole)

4. เกิด Priming Effect ทำให้พืชตอบสนองและต่อต้านการติดเชื้อโลกครั้งต่อไปได้เร็วและมากขึ้น

5. เสริมฤทธิ์กับ SA-Signaling Pathwayในการต่อต้านเชื้อโรค เพราะสารต่อต้านเชื้อโรคต่างชนิดกัน


JA-Signaling Pathway กับการต่อต้านแมลง

▪️สารต่อต้านแมลงที่ได้แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม

1. Alkaloids ต่างๆ อาทิ Nicotine, Saponin, เป็นต้น ทำให้เป็นพิษต่อระบบประสาทของแมลง มีผลต่อเอนไซม์ต่างๆ

2. Proteinase Inhibitors (PIs) มีผลต่อเอนไซม์ในการย่อยของแมลง ทำให้ขาดธาตุอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของแมลงและทำให้สร้างน้ำย่อยในทางเดินอาหารมากเกินไป

3. Volatile Signals อาทิ Terpenes, Indoles, ฯลฯ สารระเหยส่งเป็นสัญญาณ มีผลทางตรงในการไล่แมลงศัตรูพืช และมีผลทางอ้อมโดยเรียกแมลงล่าเหยื่อ (Predators) มากำจัดแมลงศัตรูพืชนอกจากนั้นยังส่งสัญญาณเตือนภัยไปให้กับพืชอื่นๆที่อยู่ข้างเคียงด้วย





SA-Signaling Pathway กับการต่อต้านเชื้อโรค

1. avr-gene (Elicitor) จากเชื้อโรคเมื่อจับกับ R-gene (Receptor) ของพืช จะเกิด Hypersentitive Response (HR) ทำให้เกิดการตอบสนองในเซลล์และสังเคราะห์ Salicylic acid (SA) ออกมา เป็นสารส่งสัญญาณระหว่างเซลล์ไปทั่วทั้งต้น และกระตุ้นให้ PR-gene สร้าง PR-Proteins ออกมาต่อต้านเชื้อโรค

2. PR-Proteins ที่เกิดขึ้นมีหลายตัว ซึ่งมีกลไกต่อต้านเชื้อโรคที่แตกต่างกันออกไป ทำให้สามารถต่อต้านเชื้อโรคได้หลายตัวพร้อมๆกัน (Broad Spectrum) และออกฤทธิ์ดีกับ Biotrophic และ Hemi-Biotrophic Pathogens ทั้งในเชื้อราแบคทีเรีย และไวรัส

3. PR-Proteins จาก SAR เป็น Acidic PR-Proteins และอยู่ในช่องว่างระหว่างเซลล์ (Intercellular Space)

4. แบคทีเรียบางชนิดบริเวณราก (PGPT) สามารถทำให้เกิด SA-Signaling Pathway ในระบบ ISR ได้
.......................................................................















ประโยชน์ของการใช้ซิกน่า

1. ใช้เพื่อเป็น “วัคซีนพืช” : สร้างภูมิต้านทานโรค
และแมลงก่อนที่เชื้อโรคและแมลงจะเข้าทำลาย

2. ใช้เพื่อป้องกันและรักษาโรคพืชทั่วไป และโรคพืช
ที่รักษายาก และยังไม่มียารักษาโดยตรง อาทิเช่น
โรคที่เกิดจากไวรัส (ใบหงิก, ใบด่าง ฯลฯ)
โรคกรีนนิ่ง เป็นต้น

3. ใช้เพื่อช่วยลดการระบาดของแมลงที่เป็นศัตรูพืช
และแมลงที่เป็นพาหะนำเชื้อโรคต่างๆสู่พืช

4. ทั้งประหยัด ทั้งปลอดภัย เพราะสามารถลดการใช้
ยาเคมีที่ใช้ฆ่าเชื้อโรคและฆ่าแมลง ที่มีพิษสูง

5. ใช้ได้กับพืชทุกชนิด ใช้ได้จนกระทั่งถึงช่วงเก็บ
เกี่ยว เพราะไม่มีสารพิษตกค้าง

6. ช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตและความแข็งแรงให้
แก่พืช ช่วยฟื้นฟูสภาพของต้นพืชที่สุดโทรม และ
ยังช่วยเพิ่มผลผลิตให้แก่พืชด้วย




เทคนิคการใช้ ซิกน่า

1. แนะนำควรใช้เป็นวัคซีนพืช ในการป้องกัน
มากกว่าที่จะใช้รักษา

2. ถ้าพบมีการระบาดรุนแรงของโรคและแมลงอาจ
เพิ่มอัตราการผสมจากปกติ 10 ซีซี.ต่อน้ำ 20 ลิตร
(อัตรา 1 : 2,000) เป็น 20 ซีซี.ต่อน้ำ 20 ลิตร
(อัตรา 1 : 1,000) และฉีดพ่นถี่ขึ้นมาเป็นทุกๆ 5
วัน

2. ถ้าพบมีการระบาดรุนแรงของโรคและแมลง อาจ
ใช้ร่วมกับยาตัวอื่นๆอาทิ “อีเรเซอร์-1” หรือ
“คาร์บ๊อกซิล-พลัส” ได้

3. ถ้าพบมีการระบาดรุนแรงของโรคและแมลง ควรมี
การใช้ร่วมกับ พาร์ทเวย์, พาร์ทเวย์-เพาเวอร์ไฟว์
หรือซูการ์-ไฮเวย์ เพื่อเพิ่มการสังเคราะห์สารสร้าง
ภูมิต้านทานโรคและแมลงให้เพียงพอ
........................................................................

http://paccapon.blogspot.com/2017/05/blog-post.html?m=0
Plant Defenses & วายร้าย ไวรัส

http://paccapon.blogspot.com/2017/03/blog-post_28.html?m=0
โลกร้อน แมลงเรืองอำนาจ

https://paccapon.blogspot.com/2017/04/blog-post_48.html?m=1
ซิกน่า และ อีเรเซอร์-1

————————————————————



ข้อมูลอ้างอิง
https://www.frontiersin.org/ar…/10.3389/fpls.2018.01065/full

https://www.semanticscholar.org/…/6f4ce6ac23c369e2854d50fb5…

https://bioone.org/…/Three-Way-Intera…/10.1603/EC13476.short

http://www.seer.ufu.br/…/biosc…/article/viewFile/22754/16452

http://www.tropentag.de/2008/abstracts/full/342.pdf

https://uknowledge.uky.edu/cgi/viewcontent.cgi…

https://stud.epsilon.slu.se/3834/1/markgren_j_120126.pdf

https://www.cambridge.org/…/EA41BDA0DEF5B962997C12A311DCD7A0

https://onlinelibrary.wiley.com/doi/pdf/10.1111/pce.12257

https://www.degruyter.com/…/znc-2004-1…/znc-2004-11-1215.pdf

https://bmcplantbiol.biomedcentral.com/…/10.…/1471-2229-9-97

https://journals.plos.org/plosone/article…



-------------------------------------


สอบถามปรึกษาเพิ่มเติม ติดต่อได้ที่
☎️:084 - 8809595 , 084-3696633
(โทร. จ-ศ 9.30-18.00 ,ส 9.30-12.00)

📲Line id :   @organellelife.com (พิมพ์ @ ด้วยนะครับ)

คลิ๊กที่ลิงค์นี้ เพื่อสอบถามและขอคำแนะนำ หรือสั่งซื้อได้
https://lin.ee/nTqrAvO
 



วันศุกร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

ความเป็นมาของสินค้า ออร์กาเนลไลฟ์

สวัสดีครับ 
ก่อนอื่นต้องขอแนะนำบริษัทก่อนนะครับว่า..
บริษัท ออร์กาเนลไลฟ์ (ประเทศไทย) จำกัด โตมากับตลาดสินค้าเกษตรนวัตกรรมใหม่ ในระบบ “ขายตรงหลายชั้น” ( MLM) มาเป็นปีที่ 11 แล้ว และเริ่มมาทำการตลาดขายตรงทางออนไลน์ โดยผ่านโซเชียลมีเดียได้เป็นปีที่ 4 แล้วน่ะครับ



ที่ผ่านมาได้มีโอกาสเห็นการตลาดของไทยมาในหลายรูปแบบ และระบบ  “ตัวแทนจำหน่าย”  ก็เป็นหนึ่งในการตลาดปัจจุบันที่เขาทำกัน แต่การทำตลาดระบบ “ตัวแทนจำหน่าย” ก็มีหลายรูปแบบอีกเช่นเดียวกัน มีเงื่อนไขที่แตกต่างกันออกไป มีทั้งที่ยากและทั้งที่ง่ายแตกต่างกันออกไป  ซึ่งบริษัทเองก็มีแนวทาง และการทำตลาดมาแล้วหลายรูปแบบเช่นกัน จนมาถึงปัจจุบันนี้..ด้วยที่สภาวะเศรษฐกิจของประเทศไม่ได้ดีเหมือนเช่นแต่ก่อน และการทำตลาดออนไลน์ก็เริ่มเข้ามามีบทบาทและมีการแข่งขันกันมากขึ้น ทางบริษัทจึงมีความคิดอันหนึ่งขึ้นมาในการทำตลาดแบบที่เป็น “ตัวแทนจำหน่าย” ที่จะให้ผู้คนให้ความสนใจและแตกต่างกันออกไปอันหนึ่งคือเป็น “ตัวแทนจำหน่ายอิสระ” แบบไร้เงื่อนไข ไม่ต้องสต๊อคสินค้า ไม่ต้องเสียค่าสมัคร อยากขายก็ขาย ไม่อยากขายก็ไม่ต้องขาย ให้อิสระในการทำงานขาย ไม่มีข้อผูกมัดใดๆ เพื่อความสบายใจของคนที่อยากเป็นตัวแทนจำหน่ายทุกท่าน ซึ่งบริษัทเองก็จะพยายามเตรียมข้อมูลการทำงานในการขาย และตลอดจนข้อมูล “องค์ความรู้” ของสินค้าที่เป็นประโยชน์ไว้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งบริษัทเชื่อว่าข้อมูลที่ทางบริษัทมีในปัจจุบันนั้น สามารถนำไปใช้ขายสินค้าได้อย่างง่ายดาย ซึ่งอันนี้เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของรูปแบบ “ตัวแทนจำหน่ายอิสระ” (Digital Nomad : DN) ที่ได้กล่าวมา นอกเหนือจากว่ามี “ตัวแทนจำหน่ายหลัก” แบบที่สมัครใจลงทุนบางส่วนในการสต๊อคสินค้า (แต่ผลตอบแทนก็สูงกว่า) ที่เรามีระบบนี้ให้อยู่แล้ว
(ระบบตัวแทนจำหน่ายแบบสต๊อคสินค้า http://paccapon.blogspot.com/2019/01/blog-post_22.html?m=0)


สินค้าของทางบริษัทเรา เป็นสินค้าอาหารเสริมพืช, ฮอร์โมนพืช, วัคซีน & ยากำจัดโรคพืช, สินค้าดูแลดิน ซึ่งจะช่วยเพิ่มผลผลิตให้พืช และลดความเสียหายจากโรคร้ายและแมลงศัตรูพืช เหมาะกับพืชเกือบทุกชนิด ซึ่งส่วนใหญ่จะทำมาจากกรดอินทรีย์ที่มีประโยชน์ต่อพืช แต่มีโทษต่อโรคพืช และปลอดภัยไร้สารพิษ เพื่อชีวิตที่ดีและปลอดภัยของผู้ใช้และผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็น “วัคซีนพืช 4 ชนิด, สารสั่งลงหัว (Tuberization) ในพืชหัวต่างๆ, สารสร้างน้ำยางพารา, สร้างน้ำมันในพืชน้ำมัน (อาทิ ปาล์มน้ำมัน, ถั่วเหลือง, ทานตะวัน, งา ฯลฯ), สร้างน้ำตาล, สร้างแป้ง เป็นต้น หรือฮอร์โมนกระตุ้นการเจริญเติบโต “แตกราก แตกดอก แตกยอด ใบหน่อ แตกกอ แตกรวง” เป็นต้น ตลอดจนกระทั่งสารฟื้นฟูดิน สร้างเนื้อดิน ซึ่งสินค้าทั้งหมดจะเน้นปลอดภัยไม่ใช่สารเคมีที่เป็นพิษและตกค้างในผลผลิต จึงปลอดภัยต่อผู้บริโภค





10 จุดเด่นของสินค้า ORG
1. เป็นสินค้าที่อยู่ในกลุ่มเกษตรปลอดภัย
2. กลุ่มลูกค้าเป็นกลุ่มที่หลีกเลี่ยงสารเคมีที่เป็นพิษ
3. สินค้ามีการซื้อซ้ำสูงมาก
4. สินค้าใช้แล้วเห็นผลชัดเจน
5. สินค้าสามารถวัดผลการใช้ได้
6. กลุ่มลูกค้าที่เป็นเกษตรกรมีจำนวนมาก
7. ปลอดภัยต่อผู้บริโภคเพราะไม่มีสารพิษตกค้าง
8. สินค้าลงทุนต่ำ กำไรงาม
9. สินค้าไม่เหมือนใครในท้องตลาด
10. สินค้าช่วยเหลือโลกและเพื่อนมนุษย์ให้ได้กลับมามีสุขภาพที่ดีและมีชีวิตยืนยาวได้อย่างมีความสุข








แต่การเป็นตัวแทนจำหน่ายในการขายสินค้ากลุ่มเกษตรนั้นอาจจะไม่ง่ายมากนัก แต่ก็ไม่ยาก หากเราเข้าใจและตั้งใจ เพราะเป็นสินค้าที่เกษตรกรจำเป็นต้องใช้ในการผลิตพืชของเขา อาทิ วัคซีนพืช , ฮอร์โมนพืช หรือสารสำคัญที่จำเป็นต่อพืชเฉพาะอย่าง อาทิสารสั่งลงหัว, สารสร้างน้ำยางพารา, หรือว่าสารสั่งดอกดก-ผลดก เป็นต้น

ดังนั้น..ท่านจึงจำเป็นที่อาจจะต้องศึกษาข้อมูลของสินค้าให้เข้าใจในที่มาที่ไปของสินค้าในทางวิชาการประกอบไปด้วย ซึ่งก็ไม่ยากเลย ทั้งนี้เพื่อที่จะได้นำไปแนะนำแก่ลูกค้าได้อย่างถูกต้อง ซึ่งบริษัทเองให้ความสำคัญกับตรงส่วนนี้มาก เพราะลูกค้าจะชอบหรือประทับใจในแบรนด์สินค้าเรา ก็ตรง “องค์ความรู้” และ “วิธีการใช้” ที่ได้ผลอันเด่นชัดและแตกต่างอย่างแน่นอน น่ะครับ

ทางบริษัทมีคลิปวีดีโอและภาพผลงานของผู้ใช้จริงไว้มากพอสมควร ที่พอจะใช้เป็นแนวทางให้กับผู้ที่สนใจในสินค้าได้นำศึกษาและพิจารณาผลงานสินค้าดูได้ ทางบริษัทจึงมั่นใจว่า สินค้าของเราทุกตัว ทุกประเภท เป็นแบรนด์สินค้าเกษตรที่มีรีวิวการใช้จริงจากลูกค้าจริงไว้เยอะที่สุดในขณะนี้
ส่วนรีวิวคลิปวีดีโอ สามารถเข้าไปดูได้ใน

http://organellelife-vdo.com 
หรือใน
http://organellelife.com/experience.php 



✅ นอกจากนี้ท่านจะได้รับข้อมูลในทุกๆวันจาก
      ทางเพจต่างๆของทางบริษัท อาทิ

#วัคซีนพืชป้องกันควบคุมโรคพืชที่เกิดจากไวรัสแบคทีเรียเชื้อรา
#นวัตกรรมมันสำปะหลังไทยสู่มันสำปะหลังโลก
#นวัตกรรมเพิ่มผลผลิตยางพารารักษายางตายนึ่งยางหน้าตาย
#บริษัทออร์กาเนลไลฟ์ประเทศไทยจำกัด
#แอคซอนAXZONสารสั่งลงหัว

ซึ่งตัวแทนทุกท่านสามารถนำคลิป หรือรูปภาพไปโฆษณาโปรโมทขายได้เลย ตามช่องทางที่ท่านถนัด ซึ่งทางบริษัทขอแบ่งรูปแบบสำหรับช่องทาง การขายหรือจัดจำหน่าย เป็น 2 ช่องทางหลักๆคือ
“ออฟไลน์” กับ “ออนไลน์”

1️⃣ ออฟไลน์ แบ่งออกเป็นอีก 2 ช่องทางคือ
      1.1 ร้านค้า
      1.2 C 2 C หรือ บุคคลขายกับบุคคล

2️⃣ ออนไลน์ แบ่งออกเป็นหลักๆ 8 ช่องทาง
      2.1 เฟซบุ๊คส่วนบุคคล
      2.2 เฟซบุ๊คแฟนเพจ
      2.3 Line@
      2.4 ยูทูป
      2.5 เว็บไซต์
      2.6 GoogleAdword
      2.7 LAZADA / SHOPPEE
      2.8 AMAZON / eBAY

ซึ่งตัวแทนสามารถโพสต์ขายได้ในแบบเดียวกันกับที่บริษัททำ โดยใช้โปรโมชั่นเดียวกันได้เลย และเมื่อมีลูกค้าสนใจสั่งซื้อสินค้าไม่ว่าจะเป็นโปรโมชั่นไหน ตัวแทนจำหน่ายก็ส่งรายชื่อลูกค้าและที่อยู่จัดส่งแบบเก็บเงินปลายทาง (COD) พร้อมออเดอร์ที่สั่งมาได้เลย ทางบริษัทจะคำนวณค่าสินค้าและค่าจัดส่งให้ พร้อมบรรจุสินค้าและจัดส่งให้ลูกค้าที่ได้แจ้งมา โดยจะจัดส่งให้ทางไปรษณีย์ไทยหรือเคอรี่

ตัวอย่างราคาสินค้า และโปรโมชั่น อาจจะมีการเปลี่ยนไปตามความเหมาะสมในแต่ละช่วง โดยทางบริษัท จะยึดถือผลประโยชน์ของลูกค้าเป็นหลัก เพื่อให้ลูกค้าได้ประโยชน์สูงสุด ท่านสามารถติดตามโปรโมชั่นต่างๆ ณ ปัจจุบันได้ในเว็บไซต์หรือโพสต์ในหน้าแฟนเพจต่างๆของทางบริษัทได้นะครับ

ตัวอย่าง : 
ราคาขาย และราคา Digital Nomad (DN)
▶️ อีเรเซอร์-1 ราคาขาย 490 บาท
    ราคา DN 385 บาท กำไร 105 บาท
▶️ ซิกน่า ราคาขาย 455 บาท
    ราคา DN 358 บาท กำไร 97 บาท
▶️ แอคซอน ราคาขาย 490 บาท
    ราคา DN 385 บาท กำไร 105 บาท
▶️ ซูการ์ ราคาขาย 336 บาท
    ราคา DN 264 บาท กำไร 72 บาท
▶️ พาร์ทเวย์ ราคาขาย 350 บาท
    ราคา DN 275 บาท กำไร 75 บาท
⛔️ หมายเหตุ : ยังมีรายการสินค้าอื่นๆอีกหลายชนิด (ตามใบรายการสินค้าที่แนบมา)

และเมื่อท่านสะสมยอดขายได้ครบ 80,000 บาท ทางบริษัทจะมีรางวัลให้โดยเป็นแหวนทองหนัก 1 กรัม และเชื่อว่าถ้าท่านตั้งใจขายจริงๆยอดเพียงแค่ 80,000 บาท ไม่ใช่..เรื่องที่ยากจนเกินไปที่ท่านทั้งหลายจะทำได้

เมื่อท่านได้อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้แล้ว หวังว่าท่านจะสนใจและมีโอกาสได้ร่วมงานกับเรา และถ้าท่านสนใจและพร้อมที่จะร่วมงานกับเราแล้ว เชิญคลิกเข้าที่ไลน์บริษัทได้เลยครับ
————————————————————

⚛️ รับสมัครตัวแทนจำหน่ายอิสระ Digital Nomad (DN) รุ่นที่ 2 โดยไม่มีข้อผูกมัดใดๆ

10 จุดเด่นของการเป็นผู้แทนจำหน่าย ORG
1. ไม่ต้องรักษายอด
2. ไม่ต้องมีขั้นต่ำ
3. ไม่ต้องสต๊อคสินค้า
4. บริษัทจัดส่งสินค้าให้ลูกค้าแทน
5. ขายได้ทุกโปรโมชั่นที่บริษัทประกาศ
6. มีสื่อหรือมีเดียที่ใช้ในการขายให้
7. ขายแล้วได้ค่าตอบแทนเร็ว
8. ไม่ใช่ขายตรงเครือข่าย MLM
9. พัฒนาความรู้ทั้งสินค้าและการขายออนไลน์
10. ขายได้ทุกช่องทางที่ท่านถนัด

10 จุดเด่นของสินค้า ORG
1. เป็นสินค้าที่อยู่ในกลุ่มเกษตรปลอดภัย
2. กลุ่มลูกค้าเป็นกลุ่มที่หลีกเลี่ยงสารเคมีที่เป็นพิษ
3. สินค้ามีการซื้อซ้ำสูงมาก
4. สินค้าใช้แล้วเห็นผลชัดเจน
5. สินค้าสามารถวัดผลการใช้ได้
6. กลุ่มลูกค้าที่เป็นเกษตรกรมีจำนวนมาก
7. ปลอดภัยต่อผู้บริโภคเพราะไม่มีสารพิษตกค้าง
8. สินค้าลงทุนต่ำ กำไรงาม
9. สินค้าไม่เหมือนใครในท้องตลาด
10. สินค้าช่วยเหลือโลกและเพื่อนมนุษย์ให้ได้กลับมามีสุขภาพที่ดีและมีชีวิตยืนยาวได้อย่างมี
      ความสุข


ในเมื่อสมัยนี้มีสินค้าออกมามากมาย ทั้งสินค้าความงาม (ประเภทครีมและเซรั่มต่างๆ), สินค้าสุขภาพ (อาหารเสริมความขาว, ความใส, ความผอม) จนไม่รู้ว่าจะไปขายสินค้าอะไรดี มีการรับตัวแทนจำหน่ายหลายรูปแบบ บางสินค้าก็ใช้ดาราเป็นพรีเซนเตอร์ให้ (แต่ไม่ได้ใช้จริง) บางสินค้าก็ใช้การตลาดแบบแรงๆ เอารายได้เข้าล่อ เอาความร่ำรวยล้นฟ้ามาอวดทุกรูปแบบ หลายท่านอาจจะเคยพบเคยเจอหรือเคยเห็นมาแล้ว แต่กับตรงนี้ จะไม่มีปัญหาเพราะว่าเราเปิดช่องทางที่ท่านไม่ต้องสต๊อคสินค้า เพียงแค่ว่าท่านนำไปเสนอขายในช่องทางของท่าน แล้วให้ทางบริษัทจัดส่งให้ สินค้าของทางบริษัทก็เป็นสินค้าที่ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำเยอะมาก และทางบริษัทเองก็ไม่ได้บังคับให้ท่านต้องขายแต่เฉพาะสินค้าของเรา ท่านขายควบคู่ไปกับสินค้าอื่นๆก็ได้ที่ไม่ซ้ำซ้อนกัน เพื่อจะเป็นทางเลือกให้กับลูกค้า และท่านมีสินค้าที่ครอบคลุมในหลายๆด้านไว้บริการ สินค้าเราคือหนึ่งในนั้น แบบที่ไม่ได้บังคับว่าต้องมีเป้ายอดขาย "ใครใคร่ค้า..ค้า ใครใคร่ขาย..ขาย" สินค้าตัวไหนขายง่าย ขายได้กำไร สินค้าจำเป็นกับคนใช้จริง (Real Demand) เราก็เลือกขายเอาครับ ไม่มีการบังคับใดๆ

การตลาดที่ดีนั้น ต้อง Win-Win ทุกฝ่าย ทั้งบริษัท ทั้งตัวแทนจำหน่าย และทั้งลูกค้าผู้ซื้อใช้ ส่วนทางบริษัทมีแค่จุดมุ่งหมายเดียวคือ สินค้าที่ดีต้องถึงมือผู้ใช้ให้ได้มากที่สุด ใช้ได้ผลดีคุ้มค่าเงินที่ลูกค้าจ่ายมา คนนำพาสินค้าต้องอยู่ได้ภายใต้การทำงานที่อิสระไม่ต้องแบกภาระการลงทุนที่สูงมากมาย แต่มีรายได้ตามคุณค่างานที่ทำไป

เรามาส่งต่อสิ่งดีๆ เพื่อที่จะช่วยเหลือเกษตรกร ที่เขาต้องการสินค้าดีๆที่เขาตามหา และเป็นสินค้าที่ได้ผลบนความปลอดภัยของผู้ใช้และผู้บริโภคกัน




☎️:084 - 8809595 , 084-3696633
📲Line id :@organellelife.com (พิมพ์ @ด้วยนะครับ)


หรือกดลิงก์ด้านล่าง แล้วเพิ่มเป็นเพื่อน เพื่อคุยสอบถามข้อมูลได้ครับ  https://lin.ee/nTqrAvO