FB

fbq('track', 'ViewContent');

วันพุธที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

กระบวนการเกิดดอกของพืช


กระบวนการเกิดดอกของพืช ต้องอาศัยกระบวนการต่าง ๆ ทางสรีรวิทยาที่ซับซ้อน โดยมีปัจจัยทั้งทางด้านสภาพแวดล้อมภายนอก ตลอดจนอิทธิพลภายในต้นพืชเองเข้ามาเกี่ยวข้องในการเปลี่ยนแปลงพืชจากระยะเยาว์ภาพไปเป็นระยะเต็มไว เมื่อสภาพแวดล้อมเหมาะสม พืชจะถูกกระตุ้นให้สร้างดอกได้ ซึ่งเป็นระยะเจริญพันธุ์ อย่างไรก็ดีการชักนำการออกดอกของพืชถูกกำหนดโดยพันธุ์กรรมเช่นเดียวกับกระบวนการทางสรีรวิทยาอื่น ๆ ในขณะที่สิ่งแวดล้อมจำเพาะจะทำปฏิกิริยารวมส่งผลให้พืชสร้างดอก (สมบุญ, 2548)


การออกดอกมีกระบวนการเกิดและพัฒนาของดอกแบ่งเป็นระยะต่างๆ ดังนี้

1. ระยะการเจริญเต็มวัย พืชจะออกดอกได้เมื่อเจริญเติบโตเต็มวัย คือ ความพร้อมของอายุ นอกเหนือจากการสะสมอาหารและสภาพแวดล้อมเหมาะสม พืชจึงตอบสนองต่อปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดดอกได้ ระยะที่พืชโตเต็มวัยแตกต่างกันขึ้นกับชนิดของพืช พันธุ์พืช ฤดูกาล และสภาพแวดล้อม เช่น แก้วมังกรออกดอกได้เมื่ออายุ6-7 เดือน หลังปลูกจากกิ่งปักชำ กิ่งตอน กล้วยไข่ ออกดอกได้เมื่ออายุ 5-6 เดือนมะละกอออกดอกเมื่ออายุ 3 เดือน มะม่วงจากเมล็ด 5 ปี มะม่วงติดตา ต่อกิ่ง ทาบกิ่ง 2 ปี มะพร้าวน้ำหอม 3 ปี มะพร้าวใหญ่ 5 ปีขึ้นไป

2. ระยะชำนำ การเปลี่ยนแปลงขั้นแรก ในการเกิดดอกพืช เริ่มมีการตอบสนองต่อการกระตุ้น หรือชักนำจากปัจจัยต่าง ๆ ที่จะทำให้ระยะเยาว์วัยเปลี่ยนเป็นระยะเจริญพันธุ์ เช่น แสง อุณหภูมิ อายุ ความสมบูรณ์ของต้น เป็นระยะที่พืชมีการ
เปลี่ยนแปลง กระบวนการสร้างเมแทบอไลท์ต่าง ๆ ภายในเซลล์ เพื่อสังเคราะห์ฮอร์โมนที่กระตุ้นการออกดอกและลำเลียงฮอร์โมนนี้ไปยังส่วนเนื้อเยื่อที่ตาหรือยอดเพื่อเปลี่ยนแปลงเป็นตาดอก

3. ระยะการเกิดตาดอก เป็นระยะที่เราเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงของตาที่จะเจริญเป็นดอก โดยเซลล์เนื้อเยื่อเจริญเริ่มขยายตัว ทำให้มีการพองตัวของตาดอก

4. ระยะพัฒนาของดอก หรือระยะที่มีการเกิดส่วนอื่น ๆ ที่ประกอบกันขึ้นเป็นดอก โดยตาดอกมีการพัฒนา เปลี่ยนรูปร่างจากรูปกรวยเป็นรูปร่างแบนและสร้างกลีบเลี้ยง กลีบดอก เกสรตัวผู้ เกสรตัวเมีย และฐานรองดอก โดยทั่วไปชั้นของกลีบเลี้ยงจะเจริญขึ้นมาก่อนส่วนอื่น ตามด้วยชั้นกลีบดอก ชั้นเกสรตัวผู้ และส่วนประกอบเหล่านี้จะพัฒนาจนถึงระยะดอกบาน ซึ่งเป็นระยะสุดท้ายของการพัฒนาของดอกพืชทั่วไปจะมีขั้นตอนการเกิดดอกเป็นไปตามระยะต่าง ๆ ที่กล่าวมาแล้ว แต่อาจมีพืชบางชนิดมีระยะการพัฒนาของดอกแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับชนิดพันธุ์พืชและสภาพแวดล้อมอื่น ๆ (สมบุญ, 2548)




ปัจจัยการสร้างดอกในพืช
ปัจจัยภายในพืช

1. ชนิดและพันธุ์พืช ชนิดและพันธุ์ไม้ผลต่างกัน จะถูกกำหนดโดยลักษณะพันธุกรรมของไม้ผลนั้น ๆ ไม้ผลต่างชนิดกัน ในสภาพแวดล้อมเดียวกัน จะมีความสามารถในการสร้างตาดอกต่างกันด้วย เช่น กล้วย มะละกอ ออกดอกเร็วกว่ามะม่วง มะขาม ทุเรียน

2. อายุของพืช พืชมีการเจริญเติบโตทางด้านต้น กิ่ง ก้าน ใบ จากระยะงอกไปจนถึง ระยะเต็มวัย ถึงช่วงอายุที่เหมาะสมที่มีการสร้างดอก อายุมีความสัมพันธ์กับขนาดต้นพืช ปริมาณอาหารในพืช และคาร์โบไฮเดรตที่ได้จากการสังเคราะห์แสงและสะสมในพืชมีผลต่อการสร้างดอก

3. ปริมาณฮอร์โมนในพืช ฮอร์โมนที่พืชสร้างขึ้นเกี่ยวข้องกับปัจจัยสิ่งแวดล้อมอื่น ๆ ทั้งภายในและภายนอกของพืช ซึ่งมีผลต่อระดับฮอร์โมนในพืช ซึ่งมีผลต่อระดับฮอร์โมนและการสร้างฮอร์ในพืช ไม้ผลหลายชนิด พืชจะสร้างดอกเมื่อระดับจิบเบอเรลลินในพืชมีน้อย แต่เอทิลีนจะมีมาก ฮอร์โมน
ชนิดอื่น เช่น ออกซิน และไซโตโคนิน อาจเกี่ยวข้องกับการออกดอกเช่นกัน



ปัจจัยเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมภายนอก

          สภาพแวดล้อมภายนอกมีอิทธิพลต่อการเกิดของตาดอก และการพัฒนาระยะเจริญพันธุ์ จะเห็นได้ว่าพืชบางชนิดสามารถออกดอกได้ทุกฤดู มีพืชอีกหลายชนิดที่ต้องผ่านสภาพแวดล้อมเฉพาะ เช่น ช่วงแสงที่เหมาะสม หรือต้องการอุณหภูมิต่ำ ตลอดจนการได้รับน้ำและแร่ธาตุจากดินในปริมาณที่เหมาะสม จึงทำให้พืชสามารถมีการพัฒนาไปเป็นระยะเจริญพันธุ์ ปัจจัยดังกล่าว ได้แก่

แสง เป็นแหล่งพลังงานที่สำคัญในขบวนการสังเคราะห์แสง ของพืชเพื่อสร้างอาหาร พืชต้องการความเข้มของแสงในปริมาณที่สูงในการออกดอกของพืช โดยมีผลต่อปริมาณสารอาหารในพืชและกระตุ้นการสร้างตาดอก ไม้ผลที่ออกดอกในช่วงวันยาว ได้แก่ แก้วมังกร โดยวันที่ยาวเท่ากันกับกลางคืนของไทยประมาณวันที่ 21 มีนาคม และหลังจากนั้นกลางวันเริ่มยาวขึ้น แก้วมังกรจะออกดอกทุก ๆ 2 สัปดาห์ และติดผลเจริญเติบตาถึงแก่เก็บเกี่ยวได้หลังดอกบาน 28-30 วัน และดอกช่อจะมีหลายรุ่น จนถึงกลางวันยาวที่สุดของไทย ช่วง 21 มิถุนายน โดยมีแสงประมาณ 12 ชั่วโมง แก้วมังกรจะไม่มีดอกจนไปถึงช่วงที่มีกลางวันสั้นที่สุด ในช่วง 21 ธันวาคม ประมาณ 11 ชั่วโมง 5 นาที แต่พอหลังจากนั้นวันจะเริ่มยาวมากขึ้น ช่วงนี้แก้วมังกรจะเจริญทางกิ่งใบใหม่จนเจริญเติบโตเป็นใบแก่ในช่วงกุมภาพันธ์ถึงมีนาคม และพอวันเริ่มยาวในปลายเดือนมีนาคมก็เกิดตาดอก อีกหนึ่งปีแก้วมังกรจึงมีดอกเป็นจำนวน 12 รุ่น โดยประมาณ แต่การเพิ่มแสงต่อวันให้ยาวขึ้นจะช่วยให้แก้วมังกรออกดอกมากขึ้น อาจเป็น 14-16 รุ่นต่อปี ไม้ผลบางชนิดไม่ตอบสนองต่อแสง เช่น กล้วย มะละกอ มะพร้าว ฯลฯ อาจเรียกว่า พืชกลางวัน (day neutral plant) การเพิ่มแสงในช่วงกลางคืน ทำให้พืชวันยาวออกดอกได้เช่นกัน(ปริญญา, 2548) ศึกษาการผลิตแก้วมังกรนอกฤดูสายพันธุ์เวียดนาม โดยใช้แสงไฟ 100 วัตต์ ให้แสงแก่แก้วมังกร เวลา 18.00-06.00 น., 18.00-24.00 น.และ 24.00-06.00 น. เป็นเวลา 15 วัน ในช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน 2546 พบว่า แก้วมังกรเกิดดอกได้ 88.6, 23.2 และ 54 ดอกตามลำดับ (ชวิศร์,2520) ศึกษาถึงอิทธิพลความเข้มแสง ช่วงแสงที่มีอิทธิพลต่อการออกดอกในการผลิตแก้วมังกรนอกฤดู โดยใช้แสงไฟ 100 วัตต์ และ 200 วัตต์ เพิ่มเวลาการให้แสงแก้วมังกร เวลา 17.30-20.30 น., 03.30-06.30 น., 17.30-20.30 น. และ 03.30-06.30 น. เป็นเวลา 15 วัน ในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์2549 พบว่า ต้นที่ได้รับแสงไฟส่องช่วงเวลา 17.30-20.30 น. และ 03.30-06.30 น. มีจำนวนดอกมากที่สุดคือ 64.25 ดอก รองลงมา ได้แก่ ต้นที่ได้รับแสงไฟ 200 วัตต์ ช่วงเวลา 03.30-06.30 น. มีจำนวนดอก 51.75 ดอก ต้นที่ได้รับแสงไฟ 100 วัตต์ ช่วงเวลา 07.30-20.30 น. และ 03.30-06.30 น. มีจำนวนดอก 42.50 ดอก ต้นที่ได้รับแสงไฟ 100 วัตต์ ช่วงเวลา 03.30-06.30 น. มีจำนวนดอก 33.50 ดอก ต้นที่ได้รับแสงไฟ 200 วัตต์ ช่วงเวลา 17.30-20.30 น. มีดอก 18 ดอก และต้นที่ได้รับแสงไฟ 100 วัตต์ เวลา 07.30-20.30 น. มีดอกน้อยที่สุด 11.50 ดอก

อุณหภูมิ มีผลต่อการออกดอกของไม้ผล โดยเฉพาะไม้ผลเขตหนาวที่ต้องการอุณหภูมิต่ำกว่า 7 องศาเซลเซียส ในการทำลายการพักตัวของตาดอก ทำให้ตาดอกเจริญเติบโตเป็นช่อดอก จำนวนชั่วโมงที่ต้นไม้ได้รับอุณหภูมิต่ำจนถึงขั้นทำลายการพักตัวของตาดอกได้ เรียกว่า ชิลลิงรีไควเมนท์ (Chilling requirement) ส่วนไม้ผลเขตร้อนหลายชนิด เช่น องุ่น ส้ม ลำไย ลิ้นจี่ มะม่วง ต้องการอุณหภูมิต่ำในช่วง 10-20 องศาเซลเซียส เพื่อกระตุ้นการสร้างตาดอก ไม้ผลเขตร้อนหลายชนิด เช่น เงาะ องุ่น ขนุน มะขาม ลองกอง มังคุด ทุเรียน การสร้างตาดอกไม่ขึ้นกับอุณหภูมิ

น้ำ ปริมาณน้ำในดินมีผลต่อการออกดอกของไม้ผลในสภาพที่ต้นไม้ขาดน้ำ หรือเกิดความเครียด จะมีตัวชักนำให้สร้างตาดอก แต่ในระยะการเจริญของตาดอก ถ้าไม้ผลขาดน้ำมากเกินไป ทำให้ดอกไม่สามารถเจริญต่อไปได้ กระบวนการสร้างตาดอกจะหยุดชะงักอยู่จนกว่าจะได้รับน้ำ การรดน้ำให้กับต้นไม้ที่อยู่ในระยะการสร้างตาดอกอาจมีผลทำให้การสร้างตาดอกช้าลงได้ เช่น ทุเรียน ลองกอง ลางสาด เงาะ เพียงแต่งดการให้น้ำ 21-30 วัน ก็เกิดตาดอกได้ แล้วจึงต้องค่อย ๆ ให้น้ำ เพื่อให้ตาดอกเจริญพัฒนาเป็นช่อดอก และดอกอย่างสมบูรณ์

ปริมาณสารอาหารในพืช การออกดอกของไม้ผลขึ้นอยู่กับอัตราส่วนของไนโตรเจนและคาร์โบไฮเดรตในต้นไม้ผลนั้น ถ้าปริมาณไนโตรเจนสูงจะเสริมสร้างใบและกิ่ง ทำให้การสร้างดอกเกิดได้ยากหรือช้า ในขณะที่ปริมาณคาร์โบไฮเดรตหรือสารประกอบคาร์บอนในไม้ผลซึ่งสูง หรือในสภาพที่ไม้ผลได้รับปุ๋ยฟอสฟอรัสและโพแทสเซียมสูง จะกระตุ้นการสร้างตาดอกของไม้ผล

การตัดแต่งกิ่ง ใช้กับไม้ผลที่แตกกิ่งใหม่ พร้อมกันมีดอกออกมาด้วย เช่น องุ่น ฝรั่ง น้อยหน่า (ฉลองชัย, 2524) การตัดแต่งกิ่งเป็นการลดการเจริญเติบโตทางกิ่งใบ และยังมีผลให้ต้นพืชสร้างอาหารให้ดีขึ้น โดยมีการแตกใบใหม่ออกมา ซึ่งใบเหล่านี้มีประสิทธิภาพในการสังเคราะห์แสงสูงกว่าใบแก่ นอกจากนั้นการตัดแต่งกิ่งที่ถูกต้องยังเป็นการลดการแก่งแย่งอาหารระหว่างกิ่ง ทำให้มีอาหารสะสมสำหรับออกดอกมากขึ้น (พีรเดช, 2529)





หากท่านต้องการเพิ่มผลผลิต ต้องไม่พลาด คู่ ORG-1 , ORG-2

 




โออาร์จี-1 (ORG-1)
ORG-1: Amino acid, The Other of Organic acid
เพิ่มพลังงาน เพิ่มความสมบูรณ์ภายในให้แก่พืช


คุณสมบัติ ORG-1
1. ไม่ใช่สารอินทรีย์ ไม่ใช่สารชีวภาพ แต่เป็นกรดอินทรีย์ที่มีประโยชน์และจำเป็นต่อกระบวนการทำงานภายในของพืช
 2. เป็นเนื้อสารเข้มข้นมีสารอาหารพืช สารสำคัญต่างๆ ครบถ้วนตามที่พืชต้องการรวมอยู่เป็นเนื้อสารเดียวกัน
3. ดูดซึมได้รวดเร็ว พืชสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ทันที
4. ไม่จับตัวตกตะกอนแข็งและไม่จับก้อนเป็นวุ้นเมื่อผสมร่วมกับสารอื่นๆ
5. ไม่แนะนำให้ผสมฉีดพ่นร่วมกับสารป้องกันกำจัดแมลงและสารกำจัดโรคอื่นๆที่เป็นสารเคมี
6. ใช้ได้กับทุกช่วงระยะการเจริญเติบโตของต้นพืช

หน้าที่ ที่สำคัญของORG-1
1. กระตุ้นการสร้างเอนไซม์ และสังเคราะห์โปรตีน
2. ช่วยกระตุ้นการทำงานของคลอโรฟิลล์   
3. การช่วยปรับความสมดุลย์ของฮอร์โมน   
4. ช่วยให้พืชสามารถนำไนโตรเจนไปใช้ได้ดีขึ้น และก็ช่วยให้การดูดซึมจุลธาตุอาหารทางใบดีขึ้น
     ช่วยปรับปรุงการดูดซึมธาตุอาหารทางราก
5. เพิ่มการสังเคราะห์แสง กระตุ้นการสร้างฮอร์โมนอ๊อกซิน
6. กระตุ้นการสร้างดอก  ช่วยการผสมเกสร ติดผลดก ลดการหลุดร่วง
7. ช่วยขยายขนาดผล  เร่งการสุกของผล
8. ช่วยป้องกันผลกระทบจากสภาวะวิกฤต และความเครียดจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพดินฟ้าอากาศ
     ต้านอากาศหนาว สู้อากาศร้อน  ทนอากาศแล้ง
9. พืชฟื้นตัวไว  ให้ดอก ให้ผลเร็ว  ผลใหญ่ได้คุณภาพ และผลผลิตสูง
คุณประโยชน์ของ ORG- 1
- ใช้เพื่อฟื้นสภาพต้นให้สมบูรณ์ พืชไม่โทรมง่าย เช่น หลังเก็บเกี่ยว หรือหลังจากประสบกับโรคระบาดเข้าทำลาย
- ใช้เพื่อทดแทนการสร้างอาหาร ขณะที่พืชวิกฤติการปรุงอาหาร(การสังเคราะห์แสง)จากธรรมชาติได้ไม่เพียงพอ
- ใช้เพื่อเพิ่มความสมบูรณ์ ให้กับทุกส่วนของต้นพืช เช่น ส่วนราก ยอด ดอกและผล โตไว ใบใหญ่ ใบเขียวเข้ม ติดดอกดี ผลดก ผลใหญ่ ได้ขนาด รสชาติดี สีสวย เนื้อแน่น มีน้ำหนัก
- ใช้เพื่อให้ต้นพืชมีความต้านทานต่อสภาพดินฟ้าอากาศที่แปรปรวน ร้อนจัด หนาวจัด แล้งจัด เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาว ฯลฯ
- ช่วยสร้างผนังเซลล์พืชให้แข็งแรง สามารถช่วยต้านทานการเข้าทำลายของโรคและแมลงได้

วิธีใช้    ชนิดพืช   ระยะเวลา อัตราการใช้
ข้าว  ช่วงตั้งท้องและออกรวง จนกระทั่งช่วงข้าวเป็นน้ำนมฉีดพ่นทุก 7-10 วัน อัตรา 20 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร
พืชไร่   ทุก7-10 วัน อัตรา 20 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร
พืชผัก 7-10 วัน อัตรา 20 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร
พืชดอก ไม้ประดับ 7-10 วัน อัตรา 20 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร
ไม้ผล และไม้ยืนต้น
เริ่มฉีดได้ตั้งแต่ก่อนดึงดอกและฉีดได้ต่อเนื่องจนกระทั่งเก็บเกี่ยวผล 7-10 วัน อัตรา 20 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร
ยางพารา ปาล์มน้ำมัน 7-10 วัน อัตรา 20 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร



ข้อแนะนำพิเศษ
(1) ช่วยเพิ่มการสะสมอาหารไว้ที่ใบ และลำต้น ช่วยให้พืชออกดอกได้เร็วขึ้น ฉีดพ่นทุกๆ 7-10วัน ให้ทั่วทั้งต้นพืชสามารถดูดซึมเข้าภายในลำต้นได้ทุกส่วนทั้งทาง ต้น ใบ ราก 20 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร
(2) ช่วยขยายขนาดผล   สร้างเนื้อเยื่อ สร้างแป้ง ขั้วเหนียว ผลไม่ร่วง สีผลสด ผลติดดก รสชาติดี มีน้ำหนักขึ้น ฉีดพ่นทุกๆ 7-10วัน 20 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร
(3) ช่วยพืชที่ลงหัว เข้าสู่ระยะลงหัวได้เร็ว หัวใหญ่เร็ว ได้น้ำหนัก เปอร์เซนต์แป้งดี  เปอร์เซนต์น้ำตาล น้ำมันดี น้ำยางดี เก็บได้นาน เนื้อแน่น หัวไม่ฝ่อง่ายฉีดพ่นทุกๆ 7-10วัน 20 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร

 ( ความเครียดของพืช:  เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อม ทำให้พืชเกิดความเครียด และ พืชจะมีกลไกทั้งทางชีวภาพและชีวเคมีในการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพ แวดล้อม กลไกในการตอบสนองของพืชนี้อาจจะนำไปสู่ความเสียหายกับพืช โดยส่งผลกับการเจริญเติบโตของพืชได้ ไม่ว่าจะเครียดจากสภาพดินฟ้าอากาศ เช่น ปริมาณน้ำ, แสงแดด, ค่าความเค็ม, ค่าPH, ระดับอุณหภูมิสูง-ต่ำ, ปริมาณโลหะหนัก, ปริมาณธาตุอาหาร, และ มลภาวะต่างๆ หรือ ความเครียดจากสาเหตุอื่นๆ เช่น ความเสียหายของต้นพืช, การเป็นพิษที่ได้รับจากการใช้สารกำจัดศัตรูพืช, การโดนเชื้อโรค โดนหนอนหรือแมลงเข้าทำร้ายต้นพืช อาจส่งผลต่อวงจรชีวิตของพืชได้ เช่น การแตกใบอ่อน การออกดอก การติดผล การสุกของผล เป็นต้น)
ความเครียดเหล่านี้อาจส่งผลให้ การเติบโตและการสังเคราะห์โปรตีนของพืชลดลง เป็นผลต่อให้ปริมาณ
แอมโนเนียสูงขึ้น ซึ่งจะทำให้เป็นพิษกับพืช การฉีดพ่น อะมิโน แอซิดเข้าไปจะช่วยให้เกิดการสังเคราะห์โปรตีนในพืช ช่วยลดความเป็นพิษจากแอมโมเนียลง
การใช้ในช่วงวิกฤติจะช่วยให้ อะมิโน แอซิดที่ให้กับพืช พืชได้รับอย่างมีรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะช่วยลดเวลาที่พืชเครียดลง และลดผลลบจากภาวะเครียดลงไปด้วย




โออาร์จี:(ORG-2)
ORG-2: Amino acid, Monosaccharides  and Other Ingredients
สารอาหารพืชชนิดพิเศษ สารให้พลังงานสูง  บำรุงต้นและเพิ่มผลผลิต



คุณสมบัติ ORG-2 
เป็นสารอาหารพืชชนิดพิเศษ ที่จำเป็น ช่วยเสริมสร้างความสมบูรณ์แข็งแรงให้แก่พืช
สำหรับช่วงระยะเริ่มเจริญเติบโต ไปจนกระทั่ง ติดดอก ออกผล ลงหัว หรือ โตสมบูรณ์เต็มที่จนเก็บเกี่ยว  ช่วยปรับปรุงคุณภาพของผลผลิตให้ได้ปริมาณสูงสุด
-ส่งเสริมการสร้างและสะสมอาหารภายในต้นพืช
-ช่วยเสริมการสร้างตาดอก ติดดอกดี ช่วยผสมเกสรสมบูรณ์
-ลดการร่วงหล่น ขั้วเหนียว ผลดก ผลสวย ได้รูปทรงมาตรฐาน สม่ำเสมอ
-ช่วยสร้างเนื้อให้แน่น มีน้ำหนักดี ขยายขนาดผล ทำให้ผลใหญ่ ผลหนัก
 -เพิ่มปริมาณแป้งในพืชหัวได้มากขึ้น  ทำให้พืชหัวมีขนาดใหญ่ แข็งแรง เนื้อแน่น ไส้ไม่กลวง
-ช่วยพัฒนาคุณภาพของผลผลิตให้ดีขึ้น ช่วยเข้าสี สีสวย รสชาติดี
- ช่วยป้องกันผลกระทบจากสภาวะวิกฤต และความเครียดจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพดินฟ้าอากาศ
     ต้านอากาศหนาว สู้อากาศร้อน  ทนอากาศแล้ง
- พืชฟื้นตัวไว  ให้ดอก ให้ผลเร็ว  ผลใหญ่ได้คุณภาพ และผลผลิตสูง

คุณประโยชน์ ORG-2
บำรุงด้วย ORG-2  เป็นประจำ จะทำให้พืช
1. ในช่วงสะสมอาหาร - ใบหนา  เขียวเข้ม  พร้อม ออกดอก
2. ช่วงเปิดตาดอก - ออกดอกเร็ว  ดอกสม่ำเสมอ  เกสรสมบูรณ์
3. ช่วงติดผล  - ขั้วเหนียว   ขยายผล  สร้างเนื้อ  เร่งสี
4. ช่วงเพิ่มคุณภาพ - ทำให้เนื้อดี สีดี รสชาติดี มีความหวาน  มีกลิ่นหอม
พืชที่แนะนำให้ใช้ 
พืชผักกินฝักและผล แตงโม สัปปะรด ถั่วแระ ข้าวโพด มันฝรั่ง  มันสำปะหลัง หอม, กระเทียม พริก
นาข้าว ลิ้นจี่ ส้มเปลือกบาง ยางพารา

อัตราการใช้  ORG-2
1. ผสม ORG-2  อัตรา 20 ซีซี./น้ำ 20 ลิตร
2. ไม่สามารถใช้ผสมร่วมกับสารป้องกันกำจัดโรคและแมลง

( ความเครียดของพืช:  เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อม ทำให้พืชเกิดความเครียด และ พืชจะมีกลไกทั้งทางชีวภาพและชีวเคมีในการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพ แวดล้อม กลไกในการตอบสนองของพืชนี้อาจจะนำไปสู่ความเสียหายกับพืช โดยส่งผลกับการเจริญเติบโตของพืชได้ ไม่ว่าจะเครียดจากสภาพดินฟ้าอากาศ เช่น ปริมาณน้ำ, แสงแดด, ค่าความเค็ม, ค่าPH, ระดับอุณหภูมิสูง-ต่ำ, ปริมาณโลหะหนัก, ปริมาณธาตุอาหาร, และ มลภาวะต่างๆ หรือ ความเครียดจากสาเหตุอื่นๆ เช่น ความเสียหายของต้นพืช, การเป็นพิษที่ได้รับจากการใช้สารกำจัดศัตรูพืช, การโดนเชื้อโรค โดนหนอนหรือแมลงเข้าทำร้ายต้นพืช อาจส่งผลต่อวงจรชีวิตของพืชได้ เช่น การแตกใบอ่อน การออกดอก การติดผล การสุกของผล เป็นต้น)
ความเครียดเหล่านี้อาจส่งผลให้ การเติบโตและการสังเคราะห์โปรตีนของพืชลดลง เป็นผลต่อให้ปริมาณ
แอมโนเนียสูงขึ้น ซึ่งจะทำให้เป็นพิษกับพืช การฉีดพ่น อะมิโน แอซิดเข้าไปจะช่วยให้เกิดการสังเคราะห์โปรตีนในพืช ช่วยลดความเป็นพิษจากแอมโมเนียลง
การใช้ในช่วงวิกฤติจะช่วยให้ อะมิโน แอซิดที่ให้กับพืช พืชได้รับอย่างมีรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะช่วยลดเวลาที่พืชเครียดลง และลดผลลบจากภาวะเครียดลงไปด้วย



ORG-5
ORG5 Granules : ORG5 เม็ด



ORG5 Granules : ORG5 เม็ด
Multi Activity Bio organic Granules. เม็ดเดียวครบเครื่องให้กับพืช

Contents -ประกอบด้วย สารสำคัญ

          - Sea weed extract
          - amino acids
          - neem oil
          - humic acid
          - anti root rot substances



An unique Patented granular formulation for plant growth as well as for effective preventive measures against pests and fungi. It can be used for all crops. ORG5 contains five different constituents - Due to sea weed based bio-fertilizer there is overall growth of crops due to plant cell division and increase in number of plant cells. Due to blend of vital amino acids, crops gets required nourishment at different stages of its growth. Hence there is healthy and vigorous growth with increased number of flowers and fruits Due to Humic acid, there is profuse growth of white roots. Roots become healthy which ultimately enhance plant growth. Due to Neem Oil, plants are protected from sucking pests in the initial stages of their growth. Neem oil also prevents attacks from other insects and pests as well as protect the plant from Nematodes and Termites. Due to Anti root rot substances, soil gets sterilized by killing harmful fungi such as Fusarium and Pythium. Due to its unique constitution, it has proved to be miracle for all types of crops. since all the five constituents are made available to the crop at once, crop is benefited right from the initial stage till the harvest.


      จาก 5 วัตถุดิบที่ผ่านขบวนการทางธรรมชาติในสัดส่วนที่เหมาะสมกับพืชเพื่อการเจริญเติบโต และการป้องกันและต้านทานต่อศัตรูพืช

ORG-5 สามารถใช้ได้กับทุกพืช

ORG5 ประกอบด้วยสารสำคัญ 5 ชนิด โดยแต่ละชนิดจะมีประสิทธิผลต่อพืชดังนี้

1. Sea weed extract สาหร่ายสกัดธรรมชาติ มีผลให้พืชเจริญเติบโตโดยการแบ่งเซลล์และขยายขนาดเซลล์ ทำให้พืชเติบโตโดยสม่ำเสมอ
2.amino acids ช่วยเพิ่มความสมบูรณ์ให้กับพืช โดยให้กรดอะมิโนที่จำเป็นแก่พืชนำไปใช้เพื่อสร้างโปรตีนในการเจริญเติบโต
3. Humic acid ช่วย เพิ่มประสิทธิภาพของรากพืชให้พัฒนาสมบูรณ์ สามารถทำหน้าที่ในการดูดน้ำหาอาหารได้เต็มที่ ช่วยโครงสร้างของดินให้มีอากาศเพียงพอและร่วนซุย และยังเปลี่ยนสภาพของปุ๋ยที่อยู่ในดินให้อยู่ในรูปที่พืชดูดกินได้
4. Herbal extract สารสกัดจากพืชสมุนไพรและสารสะเดาในรูปน้ำมัน เมื่อพืชต้องแสงแดดจะทำให้สารเหล่านี้ออกฤทธ์ในการป้องกันแมลงและยังใช้ใน การยับยั้งโรคพืชที่เกิดจากเชื้อในดิน และยังสามารถป้องกันใส้เดือนฝอยและปลวกด้วย
5.Anti root rot substances
ช่วยให้ดินปราศจากโรคพืชที่ไม่พึงประสงค์ โดยเฉพาะจากเชื้อ Fusarium และ Pythium.

Dosage -  8 to 16 kg per Acre as per type of crop.
อัตราการใช้   3 - 6 กิโลกรัม ต่อไร่







ไบโอเจ็ท (Bio-Jet)
ไบโอเจ็ท  สารกระตุ้นการเจริญเติบโตของพืชช่วยกระตุ้นให้พืชมีการแตกตาอย่างสม่ำเสมอ อาทิ  ตายอด ตาดอก ตาใบ
  ช่วยเพิ่มประมาณแห้ง  น้ำตาล  ฮอร์โมนต่างๆ ทำให้พืชฟื้นตัวเร็ว หลังจากเก็บเกี่ยว 
    หรือ ฟื้นตัวเร็วหลังจากโดนน้ำแช่ขัง
  ช่วยกระตุ้นให้พืชที่แคระแกรน เนื่องจากอากาศ ร้อนหรือหนาวเกินไป และพืชที่แพ้สารเคมีให้มีการเจริญเติบโตดีขึ้น
  สามารถใช้ผสมร่วมกับสารกำจัดศัตรูพืชได้หลายชนิด
  พืชดูดซึมเข้าทางใบและรากได้ดี
  สามารถใช้ร่วมกับสารกำจัดแมลงได้หลายชนิด






ซอยล์ไลฟ์ (SOIL LIFE)
ซอยล์ไลฟ์” ( SOIL LIFE ) เป็นสารอินทรีย์เข้มข้นที่สกัดมาจากธรรมชาติ
มีประโยชน์อย่างยิ่งในการบำรุงดิน ปรับปรุงคุณภาพของดิน แก้ดินเป็นกรด
ซึ่งจะมีผลทำให้พืชเจริญเติบโตเร็ว แข็งแรง ออกดอกและผลดก ลดปัญหาการ
ระบาดของเชื้อโรคทางดิน อาทิ โคนเน่า โรครากเน่า โรคเหี่ยวเฉา ฯลฯ
และที่สำคัญคือช่วยให้ดินมีความอุดมสมบูรณ์ตลอดไป ช่วยเสริมการใช้ปุ๋ยอย่าง
มีประสิทธิภาพ ทำให้พืชดูดกับธาตุอาหารได้ อย่างเต็มที่ ซอยล์ไลฟ์
สามารถละลายน้ำได้ดีมาก จึงสามารถใช้กับระบบน้ำหรือฉีดพ่นได้
ซอยล์ไลฟ์ คุณค่า 2 พลัง
1.      พลังต่อดิน
2.      พลังต่อพืช          
                                                          
พลังต่อดิน
1.ช่วยปรับปรุงสภาพดินให้โปร่ง ร่วนซุย ไม่จับตัวแน่นแข็ง อากาศถ่ายเทได้สะดวก ระบายน้ำดี
     ช่วยอุ้มน้ำและออกซิเจน
2.ช่วยปรับสภาพความเป็นกรด ด่าง (PH) ของดิน ทำให้ดินไม่เสื่อมง่ายจากการใช้ปุ๋ยเคมีต่างๆและ
    ปลดปล่อยธาตุอาหารได้มากขึ้น
3. ช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ ที่มีประโยชน์ในดิน ทำให้พืชได้รับสารอาหาร
    จากธรรมชาติได้ดี
4.ช่วยให้พืชสามารดูดซึมธาตุอาหารทางรากได้มากขึ้นไม่ว่าจะเป็น ธาตุอาหารหลัก
     ธาตุอาหารรอง ธาตุอาหารเสริม จึงช่วยให้พืชเจริญเติบโตได้ดี พืชงามสมบูรณ์
5.  ช่วยส่งเสริมขบวนการไนตริฟิเคชั่นได้ดีขึ้น
6.  ช่วยลดอัตราการใช้ปุ๋ยลงได้ถึง 30 – 50 %
พลังต่อพืช
1.    ส่งเสริมการสร้างฮอร์โมนอ๊อกซิน (AUXIN) ในพืช เพื่อการกระตุ้นแบ่งเซลล์ เพื่อการเจริญเติบโตของพืช  พืชเติบโตเร็ว ใบเขียวใหญ่
2.   ช่วยเร่งการทำงานของเอ็นไซม์และวิตามินในเซลล์พืช ซึ่งมีผลต่อกระบวนการสังเคราะห์แสง เป็นต้น
3.    ช่วยให้พลังงานและขนส่งปุ๋ย สารอาหาร วิตามิน ฮอร์โมนและเอ็นไซม์ต่างๆในพืชจากรากหรือใบไปยังจุดที่พืชต้องการอย่างรวดเร็ว 
4.  ช่วยรักษาสมดุลของประจุไฟฟ้า เคมีต่างๆในเซลล์พืชทุกเซลล์ ซึ่งมีความสำคัญมากในสิ่งมีชีวิต เพื่อการเจริญเติบโตและแข็งแรงได้เต็มที่
5.  ช่วยเพิ่มกระบวนการสังเคราะห์โปรตีน เพิ่มจำนวน DNA ในเซลล์พืชและเพิ่มกระบวนการสังเคราะห์  RNA
6.  ช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของพืช เพื่อเพิ่มความต้านทานต่อสภาวะเครียดต่างๆ อาทิ ความหนาวเย็น ความแห้งแล้ง


สอบถามเพิ่มเติม 
บริษัท ออร์กาเนลไลฟ์ (ประเทศไทย) จำกัด 
084 -8809595, 084-3696633
Line ID : @organellelife.com  (มี@ด้วยครับ)


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น