FB

fbq('track', 'ViewContent');

วันอาทิตย์ที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2558

อยากเป็นเศรษฐี ต้องทำอย่างไร




อยากเป็นเศรษฐี ต้องเป็นเจ้าของธุรกิจเครือข่าย

Why We Want You to Be Rich Donald Trump Robert Kiyosaki
เป็นเรื่องที่ช็อควงการธุรกิจโลก เมื่อ 2 มหาเศรษฐีอเมริกา
1. Robert Kiyosaki เจ้าของลิขสิทธิ์หนังสือ Rich Dad Poor Dad
2. Donald Trump นักธุรกิจระดับ 10,000 ล้านเหรียญ
เขียน บทความร่วมกันแนะนำให้ใครก็ตามที่อยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง ให้เริ่มด้วยการทำ Network Marketing ในหนังสือ Why We Want To Be Rich และ Whe We Recommened Network Marketing
 ทำไมคุณถึงแนะนำธุรกิจเครือข่าย หรือ MLM ให้กับผู้อื่น?
มี คนถามผมเสมอว่า ทำไมผมจึงแนะนำธุรกิจเครือข่ายให้กับคนทั่วไป ทั้ง ๆ ทีผมก็ไม่ได้ร่ำรวยขึ้นมาจากธุรกิจการตลาดแบบเครือข่ายสักหน่อย ครับ ผมมีเหตุผลอยู่หลายประการที่ทำเช่นนี้ และนี่แหละครับคือที่มาของหนังสือเล่มนี้
 อกาสที่ 1 : โอกาสในการเรียนรู้ธุรกิจที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของคุณไม่ใช่เรื่องเงิน
 พวกเขามักจะเล่าถึงคนที่สามารถทำเงินได้ถึงหนึ่งแสนเหรียญต่อเดือน จากธุรกิจของเขาให้ฟังอย่างตื่นเต้น และผมก็ได้เคยพบกับคนเหล่านั้นจริง ๆ มาแล้วด้วย ผมจึงไม่มีความสงสัยในศักยภาพของการสร้างรายได้มากมายจากธุรกิจเครือข่ายเลย

โอกาส ที่ 2: โอกาสในการเปลี่ยนมาอยู่ด้านขวาของเงินสี่ด้าน แทนที่จะเป็นแค่เพียงเปลี่ยนงานคุณเคยได้ยินคนพูดประโยคต่อไปนี้บ่อยแค่ไหน
1. ผมอยากจะหยุดทำงานเสียที?
2. ?ฉันเบื่อแล้วกับการเปลี่ยนงาน?
3. ?ผม อยากจะมีรายได้มากกว่านี้ แต่ผมก็ไม่อยากลาออกจากงานและเริ่มต้นใหม่อีก แล้วผมก็ไม่อยากกลับไปเรียนหนังสือเพื่อศึกษาวิชาชีพใหม่ ๆ อีก?
4. ?ทุกครั้งที่เงินเดือนขึ้น ภาษีก็ขึ้นตามทุกที?
5. ?ผมทำงานหนักมากแต่เจ้าของบริษัทรวยอยู่คนเดียว?
6. ?ผมทำงานหนักมาก แต่ผมก็ยังมีปัญหาเรื่องการเงินอยู่ผมคงต้องวางแผนเรื่องการเกษียณของผมใหม่?
7. ?ฉันกลัวว่าเทคโนโลยีใหม่ ๆ จะทำให้ฉันเป็นคนล้าสมัยไปเสียแล้ว?
8. ?ฉันแก่เกินไป แล้วก็ไม่สามารถทำงานหนักเช่นนี้ต่อไปได้อีกแล้ว?
9. ?ผมเรียนจบทันตแพทย์ แต่ผมก็เบื่อที่จะเป็นทันตแพทย์แล้ว?
10. ?ผมเพียงแต่ ต้องการหาอะไรใหม่ ๆ ทำและได้มีโอกาสพบกับคนกลุ่มใหม่ ๆ บ้าง ผมเบื่อที่จะต้องทำงานกับคนที่ไม่มีความกระตือรือร้นและก็ไม่มีเป้าหมายใน ชีวิต ผมเบื่อที่จะต้องทำงานกับคนที่ทำงานไปวัน ๆ แบบเช้าชามเย็นชามและไม่อยากที่จะทำงานกับบริษัทที่จ่ายเงินให้กับเราเพียง แค่ทำให้เราพออยู่ได้เท่านั้น?
 โอกาสที่ 3 : โอกาสที่จะเข้าสู่ด้าน B(เจ้าของกิจการ) ด้วยต้นทุนในการเริ่มต้นและการดำเนินการต่ำกว่าใน ระหว่างที่ผมได้รับเชิญให้ไปบรรยายเกี่ยวกับเรื่องธุรกิจและการลงทุน ให้กับผู้ฟังกลุ่มหนึ่งที่โบสถ์ ก็มีคนคนหนึ่งถามผมขึ้นว่า ?ถ้าด้าน B ดีกว่าด้านอื่นมากถึงขนาดนี้ ทำไมคนส่วนใหญ่จึง ไม่มีเริ่มต้นกันที่ด้าน Bเสียเลย?
มัน ก็คงจะไม่ใช้เรื่องง่ายเลยที่จะตอบคำถามนี้ และถ้าจะตอบเอาแบบง่าย ๆ ว่า ?เพราะต้นทุนมันสูง? คำ ตอบนี้ก็อาจจะไม่ได้ให้ความหมายถึงเรื่องต่าง ๆ อีกหลายเรื่องที่ครอบคลุมกว้างกว่าเรื่องของเงินมากที่เดียว มีปัจจัยอื่น ๆ อีกมากที่จะต้องทุ่มเทเข้าไปเพื่อสร้างธุรกิจในด้าน B นี้
 โอกาสที่ 4 : โอกาสที่จะไดลงทุนในธุรกิจประเภทเดียวกันกับที่คนรวยทำ?
ช่วยแนะนำผมหน่อยได้ไหมครับว่าจะมีวิธีลงทุนในอสังหาริมทรัพย์อย่างไรโดยที่ไม่ต้องใช้เงินดาวน์??
 โอกาสที่ 5 : โอกาสในการสร้างความฝันให้เป็นจริง พ่อรวยของผมเคยพูดว่า ?มีคนเป็นจำนวนมากที่ไม่มีความใฝ่ฝันอะไรเลย?
เพราะอะไรเหรอครับ? ผมถาม ?ก็เพราะว่าความฝันเป็นสิ่งที่มีต้นทุน?
จุด ประกายความใฝ่ฝัน คิมภรรยาของผมและตัวผมเอง ได้มีโอกาสเข้าร่วมงานสังสรรค์ที่ผู้นำระดับสูงในธุรกิจเครือข่ายท่านหนึ่ง จัดขึ้นที่คฤหาสน์ของเขาซึ้งมีพื้นทีถึง 17,000 ตารางฟุต ในโรงรถของเขาก็มีรถจอดอยู่ถึง 8 คัน และหนึ่ง ในนั้นก็เป็นรถลิมูซีน นอกจากนี้ในโรงรถของเขาก็ยังมีบรรดาของเล่นของเขาเก็บอยู่ด้วย ตัวบ้านและของเล่นของเขาเป็นสิ่งที่ประทับใจผมที่เดียว แต่สิ่งที่ประทับใจผมมากที่สุดก็คือ ชื่อถนนที่บ้านเขาตั้งอยู่เป็นชื่อถนนโดยใช้ชื่อสกุลของเขา เขาตอบว่า ?ง่ายมาก ผมบริจาคเงินสร้างโรงเรียนประชาบาล สร้างห้องสมุด ทางการก็เลยตั้งชื่อถนนให้เป็นเกียรติกับผม? คำตอบนั้นเองทำให้ผมรู้ว่าความฝันของเขานั้นใหญ่กว่าของผมมาก ผมยังไม่ เคยมีความฝันที่จะมีชื่อสกุลของผมเป็นชื่อถนน หรือบริจาคเงินเพื่อสร้างโรงเรียน สร้างห้องสมุดแบบนี้เลย เมื่อกลับจากบ้านของเขาในคืนวันนั้น ผมตระหนักดีว่าถึงเวลาแล้วที่ผมจะต้องเพิ่มขนาดความฝันของผมสักที
 โอกาสที่ 6 : คุณค่าของธุรกิจเครือข่ายวัดด้วยอะไร
ใน ปี 1974 ซึ่งเป็นช่วงที่ผมกำลังทำงานอยู่กับบริษัทซีร็อกซ์ที่ฮาวาย ผมมีปัญหาเกี่ยวกับการขายเครื่องแฟกซ์ของซีร็อกซ์เพราะว่าทันเป็นสินค้าใหม่ และที่ยากไปกว่านั้นก็คือคำถามที่ว่า กิจการ ทุกแห่งจะต้องมีเครื่องแฟกซ์อย่างน้อยหนึ่งเครื่อง คุณค่าของเครื่องแฟกซ์ยิ่งเพิ่มมากขึ้นเมื่อเครื่องแฟกซ์เกิดโยงใยกลายเป็น เครื่องข่ายขึ้นมา และการขายก็คำได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
 ?มี ใครที่ซื้อเครื่องนี้ไปแล้วบ้าง ? พูดอีกนัยหนึ่งก็คือ ถึงคุณมีเครื่องแฟกซ์แต่ถ้าคนอื่นเขาไม่มีกัน ก็ไม่มีความหมายอะไร กล่าวคือคือเราจะต้องมีเครือข่ายของเครื่องแฟกซ์ แต่หลังจาก 10 ปีผ่านไป วันนี้มีผู้คนใช้เครื่องแฟกซ์ก็มีมากขึ้น

โอกาสที่ 7 : คุณค่าที่คุณประเมินตัวเองจะเป็นตัวกำหนดสิ่งที่คุณเป็นได้อย่างไร
ระหว่าง ที่ผมกำลังบรรยายเรื่องการเริ่มต้นและการสร้างธุรกิจก็มีผู้เข้ารับการอบรม คนหนึ่งถามผมว่า ผมเห็นว่าคำถามนี้เป็นคำถามที่สำคัญผมจึงได้ให้เวลากับการตอบคำถามนี้มาก หน่อย และหลังจากที่ได้ใคร่ครวญสักครู่หนึ่งแล้วผมก็ตอบว่า
 โอกาสที่ 8 : โอกาสในการพัฒนาทักษะผู้นำของคุณ
ผม ยังจำได้ดีสมัยที่ผมเป็นเด็ก เฝ้ามองพ่อจนของผมยืนพูดอยู่บนเวทีด้วยความมั่นใจและจริงใจเพื่อกล่าวต้อง รับบรรดาคุณครูที่เพิ่มได้รับการบรรจุเข้ามาอยู่เขตการศึกษาของท่านในแต่ละ ปี ผมมีความรู้สึกภูมิใจมากที่ได้เห็นว่าคุณครูทุกคนที่อยู่ในห้องนั่งฟังอย่าง ตั้งใจและหลายครั้งเช่นกัน ผมก็ได้มีโอกาสเฝ้าดูพ่อรวยของผมยืนพูดอยู่บนเวทีกับลูกจ้างนับร้อยในงาน เลี้ยงสังสรรค์ของบริษัทของท่านนอกจากนี้ผมก็ยังเคยมีโอกาสนั่งอยู่หลัง ห้องประชุมในขณะที่พ่อรวยของผมกำลังกล่าวคำปราศรัยเกี่ยวกับอดีต ปัจจุบัน และอนาคตของธุรกิจของท่านต่อคณะกรรมการบริหารและบรรดาพวกผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ในบริษัทของท่าน เหตุที่ทำให้ธุรกิจการตลาดแบบเครือข่ายยังคงเติบโตต่อไป อนาคตของธุรกิจการตลาดแบบเครือข่ายดูออกจะสดใสมากยิ่งขึ้น เพราะการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจที่กำลังเกิดขึ้นในทุกวันนี้มีแนวโน้มที่จะ ช่วยผลักดันผู้คนให้เข้าสู่ธุรกิจ ขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยเหตุผลต่อไปนี้
1. ผู้คนต้องการที่จะมีอิสรภาพมากขึ้น
2. ผู้คนต้องการความร่ำรวยมากขึ้น
3. กองทุนเงินเกษียณอายุกำลังจะถูกยกเลิก
4. ผู้คนจะตระหนักมากขึ้น
5. โลกก็จะตื่นตัวขึ้น
6. การตกต่ำอาจจะไม่เกิดขึ้น

 เพื่อ ที่จะเปลี่ยนวิธีการคิดเกี่ยวกับเรื่องการเงินจากภายใน คำตอบของผมก็คือ ?มีหลายวิธีด้วยกันที่เราจะหาพี่เลี้ยงให้กับตัวเองได้ สำหรับตัวผมเอง ผมมีพี่ เลี้ยงอยู่หลายคนด้วยกันและพี่เลี้ยงที่เยี่ยมที่สุดที่ผมได้พบก็คือ ห้องสมุดเทปของไนติงเกล-โคแนนต์?ในปี 1974 เมื่อลาออกจากกองทัพเรือและสมัครเข้าทำงานกับริษัทซีร็อกซ์ ผมตระหนักดีว่า ผมจำ เป็นต้องเรียนรู้ทักษะผู้นำแบบใหม่ ทั้ง ๆ ที่ทักษะผู้นำที่ผมได้เรียนรู้จากกองทัพเรือจะเป็นสิ่งที่มีค่าเหลือประมาณ ก็ตาม แต่มันก็ไม่สามารถนำมาใช้ได้ในโลกของการดำเนินธุรกิจ

 รู้จักธุรกิจเครือข่าย
ธุรกิจกิจเครือข่าย คืออะไร ทำไมคนจึงหลั่งไหลเข้าสู่ธุรกิจนี้อย่างมากมาย ?
ปัจจุบัน มีรูปแบบวิธีการดำเนินธุรกิจ ใหม่ ๆ เกิดขึ้นมากมาย ว่าแต่ว่าคุณจะปฏิเสธที่จะเรียนรู้มันด้วยเหตุผลที่ว่า ไม่เคยได้ยิน ไม่เคยทราบมาก่อน หรือไม่ เมื่อพูดถึงการทำการค้า หลายคนนึกถึงว่าต้องใช้เงินทุนมาก, ต้องจ้างแรงงานจำนวนมาก, ต้องผลิตสินค้า, ต้องมีโรงงาน, ต้องมีทำเลหน้าร้าน ฯลฯ จึงจะทำให้พวกเราส่วนใหญ่ ไม่มีโอกาสได้เป็นเจ้าของธุรกิจของตัวเองสักที เพราะขาดเงินทุน ขาดคนมีฝีมือที่ไว้วางใจได้ ณ.วันนี้ธุรกิจที่ทุกคนมีสิทธิ์ทำให้ฝันของตนเป็นจริงได้เกิดขึ้นแล้ว เราเรียกว่า ?ธุรกิจเครือข่าย?


 ธุรกิจเครือข่ายคืออะไร ?
ธุรกิจ เครือข่าย เป็นระบบธุรกิจการตลาดรูปแบบใหม่ที่เปิดโอกาสให้ผู้บริโภคสามารถได้เป็นเจ้า ของธุรกิจที่สร้างรายได้จำนวนมาก โดยไม่ต้องมีความเสี่ยงและไม่ต้องลงทุนเงินเป็นจำนวนมากเหมือนกับการทำ ธุรกิจทั่วๆไป เพียงเริ่มต้นจากการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ดี และเมื่อเกิดความประทับใจในตัวผลิตภัณฑ์ที่ใช้ ก็ทำการแนะนำบอกต่อให้คนที่รู้จักได้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ดีนั้นเหมือนกับตนเป็น การโฆษณาแบบปากต่อปาก เมื่อมีการซื้อผลิตภัณฑ์ใช้ตามคำบอกเล่าจากผู้แนะนำ ก็จะทำให้เกิดกระบวนการเคลื่อนย้ายสินค้าจากผู้ผลิตไปสู่ผู้บริโภคโดยตรง โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการโฆษณาและพ่อค้าคนกลาง เหมือนกับการตลาดแบบเดิม ที่การเคลื่อนย้ายสินค้าจากผู้ผลิตสู่ผู้บริโภคจะต้องผ่านระบบพ่อค้าคนกลาง ซึ่งเป็นกลุ่มที่ได้รับกำไรถึง 60% จากการจัดส่งสินค้ามาสู่ผู้บริโภค
 เมื่อ เกิดกระบวนการเคลื่อนย้ายสินค้าจากผู้ผลิตไปสู่ผู้บริโภคโดยตรง ทำให้บริษัทเจ้าของผลิตภัณฑ์สามารถประหยัดงบประมาณที่เป็นค่าโฆษณาได้มาก ซึ่งบริษัทจะนำงบค่าโฆษณาที่ประหยัดได้ไปใช้ทำการวิจัย พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆให้ดีขึ้น เพื่อให้ผู้บริโภคได้มีโอกาสใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพดียิ่งขึ้นอีก ส่วนผลกำไร 60% ของพ่อค้าคนกลางที่ถูกตัดออกมานั้น บริษัทจะนำเงินส่วนนี้มาจัดสรรให้กับผู้บริโภคที่ใช้ดีแล้วทำการบอกต่อกับ ผู้อื่นเป็นลำดับชั้นตามส่วนที่บริษัทกำหนดไว้ ซึ่งจะเห็นได้ว่าในระบบการตลาดแบบเครือข่ายนี้ จะทำให้ผู้บริโภคสามารถมีส่วนแบ่งของรายได้มากถึง 60% ของมูลค่าผลิตภัณฑ์ จากระบบการกระจายสินค้าสู่ผู้บริโภคแบบใหม่ นอกเหนือจากการที่จะต้องเป็นผู้จ่ายเงินซื้อสินค้าเพียงอย่างเดียวในระบบ ธุรกิจแบบเดิม
 โดย การตลาดแบบเครือข่ายผู้บริโภค ที่ใช้วิธีการแนะนำบอกต่อนี้จะมีลักษณะที่พิเศษกว่าการตลาดแบบทั่วๆไป คือ ความสามารถในการขยายตัวของจำนวนผู้บริโภคที่จะเพิ่มจำนวนขึ้นได้แบบไม่จำกัด จำนวน โดยอาศัยเพียงการแนะนำผลิตภัณฑ์จากคน 1 คนแนะนำให้กับคน 2 ? 3 คนและแต่ละคนของ 2 ? 3 คนบอกต่อกับคน 2 ? 3 คนต่อๆไป ก็จะเกิดการขยายตัวของจำนวนผู้บริโภค ในลักษณะพหุคูณเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆไม่มีที่สิ้นสุด
 โอกาสการเปลี่ยนแปลงชีวิตสู่การมีอิสรภาพทางการเงินและเวลา
หนังสือ ชุดพ่อรวยสอนลูก เล่มที่ 2 ?Cashflow Quadrant? หรือ ?เงินสี่ด้าน? ของ Robert T. Kiyosaki ได้กล่าวไว้ว่า คนในโลกแบ่งตามที่มาของรายได้ที่เขาได้รับออกเป็น 4 ด้านคือ
ด้านที่ 1 ) ลูกจ้าง ( Employee ) คือผู้ที่มีรายได้จากค่าจ้าง, เงินเดือน
ด้าน ที่ 2 ) ธุรกิจส่วนตัว ( Self ? employed ), เจ้าของกิจการขนาดเล็ก ( Small Business owner ) คือผู้ที่มีรายได้จากการทำงานของตนเองหรือกิจการของตนเองโดยเจ้าของกิจการจะ ต้องเป็นผู้ลงมือทำหรือดูแลด้วยตนเอง
ด้าน ที่ 3 ) เจ้าของกิจการขนาดใหญ่ ( Business owner ) คือผู้ที่มีรายได้จากทรัพย์สินของตน, โดยใช้เวลาและแรงงานของผู้อื่นสร้างรายได้ให้กับตน
ด้านที่ 4 ) นักลงทุน ( Investor ) คือผู้ที่ใช้เงินทำงานแทนตนเอง เพื่อสร้างผลตอบแทนหรือรายได้ให้กับตนโดยไม่ต้องทำเอง
 โอกาสที่ดีที่สุดอยู่ที่การตัดสินใจเลือกทางเดินของคุณ

ใน ทุก ๆเช้าของวันใหม่ที่เราตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าเรายังต้องดำเนินชีวิตในรูปแบบที่ เหมือนๆกับทุกๆวันที่ผ่านมา คือต้องตื่นแต่เช้า ออกจากบ้าน ผจญกับปัญหาจราจร เพื่อไปให้ทันเข้างาน ตอกบัตรเข้าทำงาน แล้วก็ทำงานตามภาระรับผิดชอบที่ได้รับมอบหมาย พบเจอกับความเครียดต่างๆในการทำงาน ตอนเย็นเลิกงาน ตอกบัตรออก ผจญกับปัญหาจราจรอีกครั้ง กลับถึงบ้าน แล้วก็หลับไปด้วยความอ่อนเพลีย และเตรียมพบกับวันใหม่ที่ดำเนินชีวิตในรูปแบบเดิมๆ เป็นวงจรซ้ำแล้วซ้ำเล่าทุกวัน เราเคยสังเกตบ้างหรือไม่เราทำสิ่งเหล่านี้เพื่ออะไร? เพื่อที่จะให้สามารถดำรงชีวิตผ่านไปได้วันๆหนึ่งเท่านั้นเองหรือ ? เราต้องการชีวิตที่เป็นแบบนี้จริงๆหรือ ? ผมเชื่อมั่นว่าคนเราทุกคนมีความฝัน อยากจะมีชีวิตที่ดีกว่าที่เราเป็นอยู่ในปัจจุบันนี้อย่างแน่นอน แล้วทำไมไม่ลองหาทางที่จะเปลี่ยนชีวิตของคุณไปสู่รูปแบบของการใช้ชีวิตแบบ ใหม่ในแบบที่คุณอยากเป็น
 มี สุภาษิตจีนบทหนึ่งกล่าวไว้ว่า ?เดินทางร้อยลี้ต้องมีก้าวแรก? หากคุณต้องการเริ่มต้นสร้างความสำเร็จให้กับชีวิต ด้วยเส้นทางที่สามารถสร้างความฝันของคุณให้เป็นจริงได้ ภายในระยะเวลาที่ไม่ยาวนานเกินไป ธุรกิจเครือข่ายจะเป็นเส้นทางที่ดีที่สุดเส้นทางหนึ่ง ที่พร้อมจะเปิดโอกาสให้กับผู้ที่มีความมุ่งมั่นและตั้งใจจริงเสมอ หลังจากนี้ทั้งหมดขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคุณ เมื่อคุณได้มีโอกาสอ่านเอกสารฉบับนี้แล้ว และต้องการจะใช้โอกาสที่ดีนี้เพื่อสร้างอิสรภาพทางการเงินและเวลาให้กับตัว คุณเองและคนที่คุณรัก
 จุดเด่นของธุรกิจเครือข่าย (Networking System)
1. คือ Win - Win Business (ธุรกิจที่ชนะชนะ ) เมื่อคนที่ท่านแนะนำธุรกิจ (ลูกทีมของท่าน) สำเร็จ ท่านในฐานะผู้แนะนำ.... จึงจะ.... สำเร็จด้วย
 2. คือ No - Risk Business (ธุรกิจที่ไม่มีความเสี่ยง) ด้วยขนาดเงินลงทุนต่ำ แต่ใช้สัมพันธภาพสูง ใช้เวลาพอควร ท่านไม่ต้องลงทุนสร้างทรัพย์สิน อาคาร, อุปกรณ์, ที่ดิน (บนกองหนี้สิน)
แต่ท่าน.... กำลัง....สร้าง ทรัพย์สินคือ เครือข่ายประชากร (People Assets) ที่.... ผูกโยง กันด้วยสัมพันธภาพ
และ.... ได้ผลตอบแทนจากทรัพย์สินบนบันทึกข้อตกลง ผลประโยชน์ร่วมกัน!
และ.... ผลตอบแทนนี้ได้มาจาก ผลรวมของทั้งเครือข่าย
บางคน.... เรียกผลตอบแทนนี้ว่า Passive Income
(รายได้ที่ไม่ต้องลงแรงด้วยตนเอง แม้ว่าคุณจะหยุดทำงาน แต่รายได้ ของคุณยัง เกิดขึ้นต่อเนื่องตลอดเวลา)
 3. เป็นธุรกิจที่ท่านสามารถเลือกเวลาทำงานตามใจปรารถนา ไม่ต้องตอกบัตรเข้างาน 8.00 น. ไม่ต้องตอกบัตรออกงาน 17.00 น. ไม่ต้องยื่นใบลากิจ, ลาพักร้อนกับใคร นอกจากขออนุญาตตัวเอง! เป็นเจ้านายงานในเวลาของตนเอง (Time Freedom) นั่นคือ... มีอิสรภาพทางเวลา!
 4. เป็นธุรกิจที่กำลังอยู่ในทิศทางใหม่ของโลก เพื่อให้ท่านได้มีเวลา อยู่กับครอบครัวให้มากขึ้น (Home Based Business) เพราะ ธุรกิจนี้ทำบนโต๊ะอาหารภายในบ้านของท่าน และบ้านของคนใน เครือข่ายได้
 5. เป็นระบบที่เสริมสร้างโอกาสให้ ได้ร่วมทำงานกับ คนหลากหลาย อาชีพ, หลากหลายประสบการณ์, หลากหลายวัฒนธรรม (Multi Experience - Multi Profession - Multi culture) บนความเท่าเทียมกัน ไม่มีใครเป็นเจ้านาย-ลูกน้อง
ทุกคน คือ สมาชิกอิสระ (Distributor) ภายในระบบธุรกิจมีการ.... ถ่ายทอด.... องค์ความรู้ในวิชาชีพ
องค์ความรู้ในผลิตภัณฑ์.... จิตวิญญาณที่ปลุกพลังแห่งความสำเร็จ ลงไปเป็นชั้น ๆ ต่อ ๆ กัน ไม่รู้จบ
 6. เป็นธุรกิจที่ต่อเชื่อมท่านเข้ากับธุรกิจ ข้ามชาติระดับโลกท่านไม่ต้องสร้างระบบใหม่ ด้วยตนเอง แต่ดำเนินตาม, ปฏิบัติตามแบบแผน ธุรกิจ (Business - format) ที่วางไว้อย่างดีเป็นแบบเดียวกันทั่วโลก (บางคนเรียกว่าเครือข่ายของแฟรนไชส์ ระดับเล็กๆ หรือระดับบุคคล มาผูกโยงเชื่อมกัน (Network of Micro or Personal Franchisee) แต่ไม่ต้องจ่ายค่ารอยัลตี้ (Royalty fee) ใดๆ เลย
 7. เป็นระบบธุรกิจเดียวที่มีผลกำไรงอกเงย ขึ้นตลอด 24 ชั่วโมง/วัน ตลอด 365 วัน/ปี แม้ท่านเองจะหยุดพักผ่อน, หยุดพักร้อน เพราะเวลาทำงานภายในเครือข่ายของท่าน อาจอยู่อีกซีกโลกหนึ่ง ซึ่งกำลังทำงานอยู่ในขณะที่ท่านนอนหลับ หรือกำลังทำงานอยู่ในขณะที่ท่านหยุดพักร้อน

8. เป็นระบบธุรกิจเดียวที่ผลงานแห่ง ความพากเพียร ของท่าน วันละ 2 ชั่วโมง สามารถทวีคูณไปเป็น วันละ 2,000 ชั่วโมง, 20,000 ชั่วโมง.... แปรผัน.... ตามความใหญ่โตของ เครือข่ายของท่าน
และ.... เมื่อท่านสามารถสร้างสินทรัพย์ (People Assets) เครือข่ายอย่างมีคุณภาพ ท่านก็สามารถทำงาน เต็มที่เพียง 3 - 5 ปี เพื่อรับบำนาญติดต่อกันไปตลอดชีวิต
 หาก ท่านเป็นลูกจ้าง (Employee) มีรายได้จาก เงินเดือนเป็นหลัก ท่านอาจต้องทำงาน 35 ปี (60-25) เพื่อรอกินบำนาญเพียงเล็กน้อยต่อไป 5-15 ปี (หลังอายุ 60ปี)
หากท่านเริ่มงานด้วยเงินเดือนเริ่มต้น เดือนละ 7,000 บาท และโชคดีเงินเดือนของท่าน
ได้รับการปรับเพิ่มทุกๆ ปีๆ ละ 5-10%
เมื่อทำงานติดต่อกันถึง 35 ปี.... ท่านจะได้รับเงินจากผลงานทั้งชีวิต (420 เดือน)รวมประมาณ 7 ล้านบาท
แต่ท่านทราบไหม? ว่า เงิน 7 ล้านบาทนี้ ท่านอาจสร้างขึ้นได้จากธุรกิจระบบเครือข่าย
(หาก ครบองค์ 5 : บริษัทมั่นคง, ผลิตภัณฑ์คุณภาพดี แผนธุรกิจดี, แนวโน้มเศรษฐกิจเอื้ออำนวย, อยู่ในเวลาและโอกาสอันเหมาะสม)ภายในเวลาไม่ถึง 2 ปี หรือไม่ถึง 5 ปี

 ธุรกิจเครือข่าย (MLM) ที่ดี การเลือกที่ครบ 7 องค์ประกอบของโอกาส
หลัก ในการเลือกว่าบริษัทไหนที่เราควรจะร่วมทำด้วย บริษัทนั้นจะต้องผ่านเกณฑ์การพิจารณาต่างๆ ดังที่ Mr.Peter Ducker กูรูชื่อดังในธุรกิจ MLM ได้กล่าวเอาไว้ว่า ธุรกิจเครือข่ายที่ดี ที่ควรเข้าร่วมด้วย จะต้องมีคุณสมบัติพร้อมครบ 7 อย่างดังนี้
1. บริษัท (Company) บริษัทต้องมีความมั่นคง แข็งแรง ฐานะทางการเงินต้องมั่นคง
2. ผลิตภัณฑ์ (Products) ผลิตภัณฑ์ต้องมีคุณภาพที่ยอดเยี่ยม มีเอกลักษณ์จุดขายเหนือคู่แข่ง
3. แผนธุรกิจ (Plan) แผนรายให้ผลตอบแทนอย่างยุติธรรม และมีรายได้ที่คุ้มค่า มั่งคั่ง
4. แนวโน้ม (Trends) สินค้ามีแนวโน้มเป็นที่ต้องการของตลาดทั้งในปัจจุบันและอนาคต
5. จังหวะเวลา (Timing) ช่วงเวลาต้องอยู่ในช่วงที่เริ่มต้นไม่นาน และอยู่ในช่วงกำลังเจริญเติบโตอย่างยิ่งยวด
6. ทีมงาน (Team) ผู้นำมีีความเป็นมืออาชีพ จริงใจ และช่วยให้ท่านประสบความสำเร็จได้จริงๆ
7. ทีมผู้บริหาร (Management) ผู้บริหารมืออาชีพ วิสัยทัศน์ก้าวไกล มีประสบการณ์มายาวนานในด้านธุรกิจเครือข่าย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น