วันศุกร์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

ผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับมันสำปะหลัง

Impossible is not a fact...It's an opinion
Impossible is temporary...It's our potential
คำว่า"เป็นไปไม่ได้" เป็นแรงผลักดัน ให้ "ออร์กาเนลไลฟ์" พยายามมากขึ้น
คำว่า"เป็นไปไม่ได้" ทำให้ "ออร์กาเนลไลฟ์" สร้างนวัตกรรม ที่แตกต่าง
และ..สำหรับเรา "ออร์กาเนลไลฟ์"...คำว่า"เป็นไปไม่ได้" กลับสร้าง"ศักยภาพ" แห่งสินค้าที่ยิ่งใหญ่ให้กับเรา
ออร์กาเนลไลฟ์..มุ่งมั่นและตั้งใจ "ทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ให้เป็นสิ่งที่เป็นไปได้"
ออร์กาเนลไลฟ์..มุ่งมั่น "สร้างสินค้า”และ”องค์ความรู้" ควบคู่กับการ"สร้างคน"ให้มุ่งมั่น
และลงมือทำจริง เพื่อให้"รู้จริง"
ออร์กาเนลไลฟ์..มุ่งมั่น"สร้างสินค้า" ให้เป็น"ทรัพย์สิน" เพื่อลูกหลานมีกินมีใช้ตลอดไป
ออร์กาเนลไลฟ์.."ความจริงเข้มข้นกว่าที่คุณคิด"(The Concentrate of Truth)





รายละเอียดผลิตภัณฑ์

- ทางดิน






ซอยล์ไลฟ์ (SOIL LIFE)
ซอยล์ไลฟ์” ( SOIL LIFE ) เป็นสารอินทรีย์เข้มข้นที่สกัดมาจากธรรมชาติ
มีประโยชน์อย่างยิ่งในการบำรุงดิน ปรับปรุงคุณภาพของดิน แก้ดินเป็นกรด
ซึ่งจะมีผลทำให้พืชเจริญเติบโตเร็ว แข็งแรง ออกดอกและผลดก ลดปัญหาการ
ระบาดของเชื้อโรคทางดิน อาทิ โคนเน่า โรครากเน่า โรคเหี่ยวเฉา ฯลฯ
และที่สำคัญคือช่วยให้ดินมีความอุดมสมบูรณ์ตลอดไป ช่วยเสริมการใช้ปุ๋ยอย่าง
มีประสิทธิภาพ ทำให้พืชดูดกับธาตุอาหารได้ อย่างเต็มที่ ซอยล์ไลฟ์
สามารถละลายน้ำได้ดีมาก จึงสามารถใช้กับระบบน้ำหรือฉีดพ่นได้
ซอยล์ไลฟ์ คุณค่า 2 พลัง
1.      พลังต่อดิน
2.      พลังต่อพืช                                                                    
พลังต่อดิน
1.        ช่วยปรับปรุงสภาพดินให้โปร่ง ร่วนซุย ไม่จับตัวแน่นแข็ง อากาศถ่ายเทได้สะดวก ระบายน้ำดี
ช่วยอุ้มน้ำและออกซิเจน
2.        ช่วยปรับสภาพความเป็นกรด ด่าง (PH) ของดิน ทำให้ดินไม่เสื่อมง่ายจากการใช้ปุ๋ยเคมีต่างๆและ
ปลดปล่อยธาตุอาหารได้มากขึ้น
3.  ช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ ที่มีประโยชน์ในดิน ทำให้พืชได้รับสารอาหาร
     จากธรรมชาติได้ดี
4.           ช่วยให้พืชสามารดูดซึมธาตุอาหารทางรากได้มากขึ้นไม่ว่าจะเป็น ธาตุอาหารหลัก
              ธาตุอาหารรอง ธาตุอาหารเสริม จึงช่วยให้พืชเจริญเติบโตได้ดี พืชงามสมบูรณ์
5.  ช่วยส่งเสริมขบวนการไนตริฟิเคชั่นได้ดีขึ้น
6.  ช่วยลดอัตราการใช้ปุ๋ยลงได้ถึง 30 – 50 %
พลังต่อพืช
1.    ส่งเสริมการสร้างฮอร์โมนอ๊อกซิน (AUXIN) ในพืช เพื่อการกระตุ้นแบ่งเซลล์
เพื่อการเจริญเติบโตของพืช  พืชเติบโตเร็ว ใบเขียวใหญ่
2.   ช่วยเร่งการทำงานของเอ็นไซม์และวิตามินในเซลล์พืช ซึ่งมีผลต่อกระบวนการสังเคราะห์แสง เป็นต้น
3.    ช่วยให้พลังงานและขนส่งปุ๋ย สารอาหาร วิตามิน ฮอร์โมนและเอ็นไซม์ต่างๆในพืชจากรากหรือใบไปยัง
                 จุดที่พืชต้องการอย่างรวดเร็ว 
   4.  ช่วยรักษาสมดุลของประจุไฟฟ้า เคมีต่างๆในเซลล์พืชทุกเซลล์ ซึ่งมีความสำคัญมากในสิ่งมีชีวิต
เพื่อการเจริญเติบโตและแข็งแรงได้เต็มที่
5.  ช่วยเพิ่มกระบวนการสังเคราะห์โปรตีน เพิ่มจำนวน DNA ในเซลล์พืชและเพิ่มกระบวนการ
      สังเคราะห์  RNA
6.  ช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของพืช เพื่อเพิ่มความต้านทานต่อสภาวะเครียดต่างๆ อาทิ
ความหนาวเย็น ความแห้งแล้ง





ผงวิเศษ  บี.เอ็ม.ซี - มิกซ์  ( B.M.C. - MIX )


 ผงวิเศษสำหรับคลุกปุ๋ยเพื่อเพิ่มพลังปุ๋ย เปลี่ยนปุ๋ยธรรมดา มาเป็นปุ๋ยพิเศษ
เพิ่มพลังปุ๋ย  เพิ่มพลังดิน เพิ่มพลังพืช
เทคโนโลยีใหม่ ใส่ครั้งเดียวออกฤทธิ์ยาวนาน
ธาตุอาหารค่อยๆ ปลดปล่อยได้นานถึง 6 เดือน

คุณประโยชน์
-  พืชแข็งแรง  ผนังเซลล์แข็งแรง
-  ใบเขียวเข้ม  ตั้งชัน
-  ดูดกินปุ๋ยดี  ควบคุมการปลดปล่อยธาตุอาหาร ประหยัดปุ๋ย
-  เพิ่มผลผลิตและคุณภาพของพืชทุกชนิด ทั้งพืชผัก ไม้ผล พืชไร่ต่างๆ
-  เพิ่มการสร้างน้ำยาง,น้ำมัน และสร้างแป้ง และน้ำตาลในพืชยางพารา,ปาล์มน้ำมัน,มันสำปะหลัง
-  เพิ่มการสังเคราะห์แสงเพื่อผลิตพลังงานและโปรตีนให้มากขึ้น
-  ช่วยในการผสมเกสรให้ดีขึ้น การติดผลดีลดปัญหาการหลุดล่วงและผลแตก
- ช่วยลดดินกรด ลดดินดาน ดินไม่แน่นทึบ

คุณสมบัติ
B.M.C-Mix  
ประกอบไปด้วยธาตุอาหารรอง ธาตุอาหารเสริมและธาตุเสริมประโยชน์ที่จำเป็นต่อพืชชนิดเข้มข้น
 ซึ่งธาตุต่างๆเหล่านี้ขาดแคลนในดินเมืองไทยมาเป็นเวลานานและพืชต้องการมากแต่บอกใคร
ไม่ได้ และไม่มีใครรู้  รู้แต่เพียงว่าปลูกพืชทีไรทำไมพืชมันถึงไม่ยอมโต ใส่ปุ๋ยเท่าไรก็ไม่ยอมโต
หรือโตก็โตแบบไม่เต็มใจ ไม่ค่อยได้ผลผลิต หรือผลผลิตไม่ดี ตกต่ำ ทำให้ขาดทุน
สิ่งที่ถูกต้อง..ต้องหาสาเหตุที่แท้จริง  พืชเขาขาดแคลนอะไรพืชเขาต้องการอะไร
ก็จัดให้ตามที่เขาต้องการ..ไม่ใช่ปวดหลัง
แต่เอายาแก้ปวดท้องให้กิน  มันก็สิ้นเปลืองเปล่าๆ  

ทั้งหมดนี้.. B.M.C  Mix แก้ได้

อัตราการใช้
B.M.C-Mix 1 กิโลกรัม ผสมกับปุ๋ยอะไรก็ได้เพียง 1 กระสอบ (50 กิโลกรัม)
ขนาดบรรจุ  1  กิโลกรัม  ต่อกระปุก (ชนิดผง)


.........................................................................................................................................................................
- แช่ท่อนพันธุ์มันสำปะหลัง  

ซาร์คอน

SARCON:ไม่ใช่ฮอร์โมนเร่งราก ไม่ใช่สารเคมีฆ่าเพลี้ยฆ่าแมลง ไม่ใช่สารเคมีกำจัดโรคพืช แต่เป็นกรดอินทรีย์สังเคราะห์หลายตัว
ที่ทำหน้าที่ๆสำคัญต่างๆต่อกระบวนการทำ งานทางชีวเคมี(Biochemistry) และทำหน้าที่ได้ในหลายๆด้าน)
ความจำเป็นที่ต้องแช่ท่อนพันธุ์ ด้วย"ซาร์คอน"(SARCON)

คุณประโยชน์ 3 ประการของสารสำคัญที่มีอยู่ใน "ซาร์คอน"(SARCON)
1. กระตุ้นกระบวนการ Revitalization ระบบเซลล์รากพืช อาทิ การสร้างราก"Tuberous root"(รากสะสมอาหาร) ให้ได้ปริมาณมากๆ
2. กระตุ้นกระบวนการสร้างภูมิคุ้มกันโรคพืช( Systemic Acquired Resistances: SAR) อาทิ ป้องกันโรครากเน่า-หัวเน่า โรคใบไหม้ต่างๆ
3. กระตุ้นการสร้างเกราะป้องกันแมลงและโรค(Agglomeration of Colliods Aggregrate) อาทิ ป้องกันเพลี้ยแป้ง และหนึ่งในนั้นคือกระบวนการ"Revitalize" เซลล์รากและสร้างสัดส่วนราก"Tuberous root"(รากสะสมอาหาร)กับราก"Fibrous root"(รากหาอาหาร) ที่เหมาะสมในปริมาณที่มากพอต่อการสร้างเป็น"Tuber"(โดยผ่านกระบวน การTuberization) และอีกหนึ่งในนั้นก็คือ"กระบวนการสร้างเกราะป้องกันเพลี้ย" ด้วย"Orthosilisic acid" ที่แตกตัวเป็นสารในรูป"Polymer"และเข้าสู่กระบวนการ" Polymerization" จนเปลี่ยนรูปเป็นสาร "Colloids" และเข้าสู่กระบวนการ"Agglomeration" เพื่อเปลี่ยนรูปให้เป็นผลึกแข็ง(Colloids Aggregrate) และถูกเคลื่อนย้ายไปที่"ผนังเซลล์"(Cell Walls) ต่อไป ผนังเซลล์ก็จะแข็งแบบ"ผนังคอนกรีต" ยากซึ่งที่ปากเพลี้ยจะมาเจาะดูด แปลงอื่นอาจจะมีเพลี้ยมาเจาะน้ำเลี้ยงได้ง่ายและปล่อยเชื้อไวรัสไว้ แต่เราป้องกันไว้ดีกว่า การใช้ยาเคมีดูดซึมจะฆ่าเพลี้ยที่เป็นพาหะนำเชื้อไวรัสใบหงิกได้ ตัวเพลี้ยมันตายไปแต่มันก็ปล่อยเชื้อไวรัสไว้ในพืชแล้ว พืชได้รับเชื้อก็ติดโรคไปแล้ว เมื่อพืชได้รับ "ซาร์คอน" (SARCON) ในใบพืช ซิลิคอนจะสะสมมากในชั้นผนังเซลของเซลผิวนอกชนิดต่าง ๆ (epidermal cells) ได้แก่ bulliform cell, Cork cell, guard cell, long cell, micro-hair, prickle hair, silica cell, subsidiary cell และสะสมน้อยในเซลชั้นกลาง
(mesophyll cells) และระบบท่อลำเลียง (vascular bundle cells) และระบบท่อลำเลียง (vascular bundle cells)ซิลิคอนช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงปกป้องการบุกรุกของศัตรูพืชและสภาพ แวดล้อมเลวร้ายต่าง ๆ ปกติพืชได้รับ Silicon ทีละน้อยจากการดูดซึมทางรากและเคลื่อนย้ายไปยังผนังเซลที่สะสมซิลิคอน เมื่อถูกกระตุ้นซิลิคอนจะรวมตัวกันเป็นชั้นโพลิเมอร์ในผนังเซลในรูป silicon – cellulose membrane ช่วยทำให้ผนังเซลแข็งแรงขึ้นเพื่อป้องกันตนเอง

มีส่วนผสมของกรดซิลิซิคหรือซิลิคอนในรูปที่ละลายน้ำได้ และสามารถซึมผ่านเข้าไปในพืชได้ง่ายและรวดเร็ว เป็นสารช่วยสร้างความต้านทานโรคและแมลงให้แก่พืช โดยกรดซิลิซิคในรูปที่ออกฤทธิ์ได้ (Orthosilicic acid) จะช่วยเสริมสร้างโครงสร้างพืชให้แข็งแรงโดยเฉพาะในชั้นเซลล์ ผิวนอก(Epidermis) กรดซิลิซิคสะสมในผนังเซลล์และจะรวมตัวเป็นชั้นโพลิเมอร์(polymer)ปกป้องพืช เมื่อถูกกระตุ้นจากการบุกรุกของโรคและแมลง กรดซิลิซิคยังช่วยทำลายพิษที่ได้รับจากศัตรูพืชและยังช่วยส่งเสริมการ สังเคราะห์และการออกฤทธิ์ของสารต้านทานโรคและแมลงที่พืชสร้างขึ้นเองเช่น phytoalexins, flavonoids เป็นต้น
กรดซิลิซิคที่รวมตัวกันเป็นชั้นของโพลิเมอร์( Layer of Polymers) เพื่อปกป้องพืช ก็ยังทำหน้าที่ในการทำให้พืชทนทานต่อสภาวะเครียดต่างๆ จาก ความแห้งแล้ง ความร้อน ความหนาวเย็น ความเค็มของดิน ฯลฯ ได้ดี ทำให้พืช ทนแล้ง ทนร้อน ทนหนาว ทนเค็มได้ดี อีกทั้งยังช่วยลดปัญหาดินเปรี้ยวและรักษาความชุ่มชื้นในดินได้ ช่วยให้รากพืชแข็งแรง หาอาหารได้เก่ง ตลอดจนคุณสมบัติอีกอย่างที่กรดซิลิซิคสามารถทำหน้าที่ได้ดีคือการปลดปล่อย ธาตุอาหารที่ตกค้างในดินโดยเฉพาะฟอสเฟต และจับยึดสารพิษตกค้างในดินบางชนิดไม่ให้ถูกดูดซึมเข้าสู่พืชและไปทำลายพืช

การแช่ท่อนพันธุ์ด้วย "ซาร์คอน" (SARCON)     ไม่ใช่เป็นการแช่ "ฮอร์โมนเร่งราก" เพื่อให้รากเยอะอย่างเดียว( เพราะ "ซาร์คอน" ไม่ใช่ฮอร์โมนเร่งราก แต่เป็นกรดอินทรีย์ที่มีประโยชน์ต่อกระบวนการ "Revitalize" เซลล์ราก) แต่การแช่"ซาร์คอน "ส่วนหนึ่งก็เพื่อให้ได้รากเยอะๆและที่สำคัญรากนั้นๆต้องเป็นราก"Tuberous root"(รากสะสมอาหาร) ให้ได้ปริมาณมากพอจากกระบวนการทำงานในระบบเซลล์รากที่สมบูรณ์ เมื่อได้"รากสะสมอาหาร"ที่มากพอก็รอเข้าสู่"กระบวนการลงหัว"(Tuberization) ด้วย"แอคซอน"(AXZON) ต่อไป   นี่เพียงแค่หนึ่งในหลายๆคุณประโยชน์ของกรดอินทรีย์ที่มีอยู่ใน"ซาร์ คอน"หลายๆชนิด ที่ทำหน้าที่ได้มากมายในระดับเซลล์ ทั้ง1) Revitaliz ระบบเซลล์ราก (รากมาก รากเยอะ รากแข็งแรง) และเป็นรากสะสมอาหารเป็นส่วนใหญ่2) Systemic Acquired Resistances (SAR) กระบวนการภูมิคุ้มกันโรคเสมือนได้รับ"วัคซีน" (โรคใบไหม้ ใบหงิก โรครากเน่า โรคหัวเน่า โรคเหี่ยวเฉา บรรเทาและเบาบาง ลงไป)3) Drought Tolerance  ต้านทานความแห้งแล้ง ความร้อน ทนทานต่อการเหี่ยว การขาดแคลนน้ำ4) Agglomeration  กระบวนการสร้างผลึกแข็ง( Colliods Aggregrate) ของ Orthosilisic acid เพื่อไปสะสมที่ผนังเซลล์(Cell Wall) ทำให้ผนังแข็งแกร่งดุจคอนกรีต ป้องกันเพลี้ยต่างๆ อาทิ เพลี้ยแป้ง มาเจาะดูน้ำเลี้ยงและปล่อยเชื้อไวรัสไว้5) Detoxicity ช่วยทำลายสารพิษตกค้างในดินที่จะทำอันตรายให้แก่พืช โดยการจับยึดไว้6) Liberation of Nutrient ช่วยปลดปล่อยธาตุอาหารที่ถูกตรึงไว้ในดิน    "เข้าใจพืช  รู้ใจดิน"     จัดสิ่งที่"ใช่"และ"ถูกใจพืช  เข้าใจดิน" คือ..สิ่งที่ยากที่สุดในการทำงานกับพืช


ไม่ต้องแปลกใจว่า..ทำไม?
      เมื่อ พืชดูด"ซาร์คอน"(SARCON) เมื่อตอนแช่ท่อนพันธุ์เข้าไป ทำไม?..พืชไม่ค่อยหี่ยว ทนแล้ง ทนร้อน ทนขาดน้ำ  (Drought Tolerance) เมื่อพืชได้รับ "ซาร์คอน" (SARCON) ในใบพืช ซิลิคอนจะสะสมมากในชั้นผนังเซลของเซลผิวนอกชนิดต่าง ๆ (epidermal cells) ได้แก่ bulliform cell, Cork cell, guard cell, long cell, micro-hair, prickle hair, silica cell, subsidiary cell และสะสมน้อยในเซลชั้นกลาง (mesophyll cells) และระบบท่อลำเลียง (vascular bundle cells) และระบบท่อลำเลียง (vascular bundle cells) ซิลิคอนช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงปกป้องการบุกรุกของศัตรูพืชและทนต่อสภาพ แวดล้อมที่เลวร้ายต่าง ๆได้ ปกติพืชได้รับ Silicon ทีละน้อยจากการดูดซึมทางรากและเคลื่อนย้ายไปยังผนังเซลล์ที่สะสมซิลิคอน เมื่อถูกกระตุ้นซิลิคอนจะรวมตัวกันเป็นชั้นโพลิเมอร์ในผนังเซลล์ในรูป silicon – cellulose membrane ช่วยทำให้ผนังเซลล์แข็งแรงขึ้นเพื่อป้องกันตนเอง
  "ซาร์คอน"  มีส่วนผสมของกรดซิลิซิค(Silicic acid)หรือซิลิคอนในรูปที่ละลายน้ำได้ และสามารถซึมผ่านเข้าไปในพืชได้ง่ายและรวดเร็ว เป็นสารช่วยสร้างความต้านทานโรคและแมลงให้แก่พืช โดยกรดซิลิซิคในรูปที่ออกฤทธิ์ได้ (Orthosilicic acid) จะช่วยเสริมสร้างโครงสร้างพืชให้แข็งแรงโดยเฉพาะในชั้นเซลล์ ผิวนอก(Epidermis) กรดซิลิซิคสะสมในผนังเซลล์และจะรวมตัวเป็นชั้นโพลิเมอร์(polymer)ปกป้องพืช เมื่อถูกกระตุ้นจากการบุกรุกของโรคและแมลง กรดซิลิซิคยังช่วยทำลายพิษที่ได้รับจากศัตรูพืชและยังช่วยส่งเสริมการ สังเคราะห์และการออกฤทธิ์ของสารต้านทานโรคและแมลงที่พืชสร้างขึ้นเองเช่น phytoalexins, flavonoids เป็นต้น
กรดซิลิซิคที่รวมตัวกันเป็นชั้น ของโพลิเมอร์( Layer of Polymers) เพื่อปกป้องพืช ก็ยังทำหน้าที่ในการทำให้พืชทนทานต่อสภาวะเครียดต่างๆ จาก ความแห้งแล้ง ความร้อน ความหนาวเย็น ความเค็มของดิน ฯลฯ ได้ดี ทำให้พืช ทนแล้ง ทนร้อน ทนหนาว ทนเค็มได้ดี อีกทั้งยังช่วยลดปัญหาดินเปรี้ยวและรักษาความชุ่มชื้นในดินได้ ช่วยให้รากพืชแข็งแรง หาอาหารได้เก่ง ตลอดจนคุณสมบัติอีกอย่างที่กรดซิลิซิคสามารถทำหน้าที่ได้ดีคือการปลดปล่อย ธาตุอาหารที่ตกค้างในดินโดยเฉพาะฟอสเฟต และจับยึดสารพิษตกค้างในดินบางชนิดไม่ให้ถูกดูดซึมเข้าสู่พืชและไปทำลายพืช










ORZA - 400

คือ สารลดแรงตึงผิวที่มีการกระจายตัวมากซึ่งสาร ไตรไซลอกเซน เอ็กท็อกซิเรท เป็นส่วนประกอบ
ORZA 400 จะช่วยลดแรงตึง ผิวของสารที่ใช้ฉีดพ่น

ORZA 400 :
ใช้ได้ดีกับการพ่นสารเคมีทุกชนิดทั้งวิธีพ่น แบบน้ำมากหรือน้ำน้อยก็ตามที  อีกทั้ง
ORZA-400 ยังมีคุณสมบัตรป้องกันการเข้าทำงลายของรังสี UVต่อสารละลาย
ที่ใช้ฉีดพ่นด้วย

คุณสมบัติของ ORZA 400
- เป็น super spreader ทำให้สารที่เราฉีดพ่น มีการกระจายตัวได้กว้างและเร็ว โดยสารที่ฉีดพ่น
ลงบนใบพืชจะมี มุมที่สัมผัสกับใบของพืชลดลง ซึ่งมีทำให้สารที่ฉีดพ่นครอบคลุมพื้นที่สัมผัสได้มากขึ้น
- ช่วยลดปริมาณสารเคมีที่ฉีดพ่น
- ทำให้พืชดูดซึมปุ๋ย ธาตุอาหาร สารกำจัดศัตรูพืชและสารอื่นที่ฉีดพ่นเข้าไปในต้นพืชได้ อย่างรวดเร็ว
โดยเฉพาะช่วงที่มีฝนตก ซึ่งสารต่างๆจะถูกดูดซึมเข้าสู่ทางปากใบ

ORZA-400
- Super spreader for Soluble liquid and emulsifiable  concentrate formulations
- Promotes spray volume reduction
- Promotes rapid uptake ofagro chemicals (rain fastness)
- Improves lpray coverage
- Meets requirement of EPA 40 CFR & 180 : 910

อัตราการใช้

ORZA-400 ใช้อัตรา 2-4 ซีซี  ต่อน้ำ  20  ลิตร

ปริมาณสุทธิ 100 มล. Net weight 100 ml.


.......................................................................................................

- สร้างราก เร่งการเจริญเติบโต แตกยอดแตกใบดี
ไบโอเจ็ท (Bio-Jet)
ไบโอเจ็ท  สารกระตุ้นการเจริญเติบโตของพืชช่วยกระตุ้นให้พืชมีการแตกตาอย่างสม่ำเสมอ อาทิ  ตายอด ตาดอก ตาใบ
  ช่วยเพิ่มประมาณแห้ง  น้ำตาล  ฮอร์โมนต่างๆ ทำให้พืชฟื้นตัวเร็ว 
    หลังจากเก็บเกี่ยว หรือ ฟื้นตัวเร็วหลังจากโดนน้ำแช่ขัง
  ช่วยกระตุ้นให้พืชที่แคระแกรน เนื่องจากอากาศ ร้อนหรือหนาวเกินไป
    และพืชที่แพ้สารเคมีให้มีการเจริญเติบโตดีขึ้น
  สามารถใช้ผสมร่วมกับสารกำจัดศัตรูพืชได้หลายชนิด
  พืชดูดซึมเข้าทางใบและรากได้ดี



.............................................................................................................................

- สั่งลงหัว




 แอคซอน  (AXZON)
"สารสั่งลงหัว” ในพืชตระกูลลงหัวทุกชนิด อาทิ มันสำปะหลัง, มันฝรั่ง,
มันเทศ, หอม, กระเทียม, เผือก อื่นๆ ไม่ยอมลงหัว มัวแต่  หลงงามต้น  หลงงามใบ”
ต้องให้ “AXZON ออกคำสั่ง มันฝรั่ง, มันสำปะหลัง, หอม, กระเทียม ถึงจะยอมลงหัว
นวัตกรรมใหม่สำหรับพืชมีหัวด้วยกระบวนการ Tuberization
             AXZON มีส่วนผสมของกรดอินทรีย์และกรดจัสโมนิคที่ส่งเสริมขบวนการลงหัวให้พืช (Tuberization)
             AXZON  ทำให้พืชเปลี่ยนการเจริญเติบโตทางด้านยาว (Elongation growth) มาเป็นการเจริญเติบโต
ทางด้านกว้าง (Lateral growth) แทน โดย AXZON จะทำให้ระดับน้ำตาลในเซลล์สูงขึ้นทำให้เกิดการแบ่งเซลล์
ในแนวรัศมีของลำต้นมากขึ้นเซลล์ขยายตัวมีขนาดใหญ่ขึ้น ทำให้มีพื้นที่พร้อมที่จะสะสมแป้งและโปรตีนมากขึ้น
             AXZON ประกอบด้วยสารเคมีที่โดยปกติพืชลงหัวต้องสร้างขึ้นตามธรรมชาติในช่วงระหว่าง เริ่มลงหัว AXZON จึงสามารถใช้ได้อย่างปลอดภัยไม่มีส่วนผสมของสารเคมีที่อันตรายไม่ตกค้างในผล ผลิต
คุณประโยชน์
   •  ช่วยกระตุ้นขบวนการลงหัวของพืช (Tuberization) โดยใช้กรดอินทรีย์เลียนแบบธรรมชาติ ช่วยเพิ่ม  จำนวนเซลล์สะสมแป้งและเพิ่มขนาดเซลล์สะสมแป้งทำให้ได้หัวใหญ่ขึ้นมากขึ้น
    •  ช่วยเพิ่มผลผลิตต่อไร่ ด้วยวิธีง่ายๆและประหยัด โดยการฉีดพ่นทางใบเพียงครั้งเดียว
    •  ปลอดภัย ไม่มีสารอันตราย ไม่มีสารตกค้าง
    •  สามารถใช้ได้กับพืชลงหัวทุกชนิดโดยไม่เกิดอันตราย

 ส่วนประกอบสำคัญ  :  Mixture of Organic Acids and Inert  Ingredients.


กระบวนการ "TUBERIZATION" กับกลไก “การลงหัว"(Tuber)

        เป็นกระบวนการที่เกิดการเปลี่ยนแปลงระดับเซลล์เนื้อเยื่อเจริญ (Meristem cell) ที่อยู่บริเวณปลายรากของมันสำปะหลัง เมื่อมันได้รับสารบางตัวใน "แอคซอน" (AXZON) ซึ่งเป็นเสมือนฮอร์โมนที่จำเป็นที่ทำให้เซลล์ดังกล่าวก็จะขยายตัว (Cell Enlargement) เพื่อรองรับการสะสมแป้งและโปรตีน อีกทั้งเซลล์ก็ยังจะแบ่งตัว (Cell Division) ในแนวขวาง (Lateral Growth) และหยุดการแบ่งตัวในแนวยาว (Elongation Growth)เพื่อให้เกิดการขยายเซลล์รากให้บวมขึ้นเป็นหัว (Tuber)และเปลี่ยนหน้าที่เซลล์ (Cell Differentiate) เพื่อทำให้ Stolon หรือ Root เปลี่ยนมาทำหน้าที่สะสมอาหารแทน
การลงหัว (Tuberization) จะดีขึ้นและหัวมีขนาดใหญ่ขึ้น ยังขึ้นอยู่กับระดับน้ำตาลในต้นมันสำปะหลังด้วย ดังนั้นการสังเคราะห์แสง(Photosynthesis) ที่ดีและสมบูรณ์จะช่วยให้การลงหัวดีและสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ดังนั้นการที่เราอาจจะเลียนแบบธรรมชาติโดยการไม่ต้องพึ่งพาการสังเคราะห์แสง แต่เพียงอย่างเดียว แต่มีการเลียนแบบธรรมชาติโดยการให้น้ำตาลโมเลกุลเดี่ยวตัวเดียวกันกับที่พืช สังเคราะห์แสงได้ ป้อนให้กับมันสำปะหลังด้วยก็จะช่วยให้มีการลงหัวที่ดีขึ้นและสุดยอดขึ้น ดังนั้นการใช้ "ซูการ์-ไฮเวย์"(ZUKAR-Highway) ร่วม ด้วยจึงมีความจำเป็น นี่คือ..คำตอบ ในการพัฒนาผลผลิตมันสำปะหลังในยุคใหม่แห่งโลกอนาคตทางการเกษตร

          ช่วงอายุประมาณ 60-90 วันจะเป็นช่วงอายุ(Growth Stage) ของมันสำปะหลังที่จะเปลี่ยนการเจริญเติบโตมาเป็นการ"ลงหัว"เพื่อสะสมอาหาร ที่หัว มันจะมีการสังเคราะห์ฮอร์โมนตัวหนึ่งขึ้นมาควบคุมกระบวนการลง หัว(TUBERIZATION) ซึ่งฮอร์โมนตัวนี้มันสำปะหลังสังเคราะห์ขึ้นได้เองตามธรรมชาติซึ่งต้องอาศัย ความสัมพันธ์ของปริมาณแสงและอุณหภูมิที่เหมาะสม แต่ถ้าความสัมพันธ์ของแสงและอุณหภูมิ ไม่สัมพันธ์กัน มากไปหรือน้อยไป มันก็ไม่เพียงพอต่อการสร้างฮอร์โมนตัวนี้ การลงหัวก็จะสะดุดและลงหัวได้ไม่ค่อยดี หรือไม่มีการลงหัว มัวแต่หลงทาง และงามแต่ต้นงามแต่ใบ ไม่มีหัวหรือมีหัวจำนวนน้อย ถ้าฮอร์โมนตัวนี้เพียงพอการลงหัวก็จะดี ทุกอย่างเป็นกระบวนการทางชีวเคมี(Biochemistry) ซึ่งเป็นกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ที่พิสูจน์ได้ ถึงกลไกต่างๆ ถ้าเราเลียนแบบธรรมชาติโดยการสร้างสารบางอย่างหรือฮอร์โมนบางอย่างที่มัน พร่องหรือมันขาดแคลนและนำสารหรือฮอร์โมนนั้นๆมาทดแทนในส่วนที่ขาดแคลนนี้ให้ แก่พืชได้ พืชย่อมดีใจและสามารถทำหน้าที่ในกระบวนการต่างๆต่อไปได้อย่างสมบูรณ์ (ในภาพ: มันอายุ 5 เดือน ทำหน้าที่"ลงหัว" เกือบหมดแล้ว ไม่ว่าจะรากเล็ก รากน้อย เปลี่ยนเป็นหัวเกือบหมด รอก็แต่ขยายหัวและ"ลงแป้ง"เท่านั้น)

องค์ประกอบที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำงานของกระบวนการ  "TUBERIZATION"

Photoperiod หรือระยะเวลาที่พืชได้รับแสงต่อวันและอุณหภูมิจะมีผลต่อการลงหัวของพืช ตระกูลที่มีการลงหัว เมื่อช่วงเวลารับแสงเหมาะสม และอุณหภูมิที่ลดต่ำลงพืชจะสังเคราะห์ “Jasmonic acid” (JA) ที่ใบและหลังจากนั้นก็จะถูกเคลื่อนย้ายไปยังลำต้นที่ทอดเป็นแนวราบไปตามดิน (Stolon) หรือราก (Root) จนทำให้เกิดหัวเป็นแนวรัศมี (Radial Growth) เป็นจำนวนมาก

“การลงหัว” เกิดจากการเปลี่ยนแปลงระดับเซลล์ ที่เซลล์เนื้อเยื้อเจริญ (Subapical meristem cell) ที่อยู่บริเวณ

ปลายรากและปลายยอดของพืช หลังจากได้รับ Jasmonic acid (JA) ในปริมาณที่เหมาะสม ก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลงที่โครงสร้างเซลล์ดังนี้

1. Cell Enlargement (การขยายตัวของเซลล์) เซลล์จะมีขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อรองรับการสะสมแป้งและโปรตีน
2. Cell Division (การแบ่งตัวของเซลล์) เซลล์เริ่มแบ่งตัวในแนวขวาง (Lateral) และหยุดแบ่งตัวในแนวยาว (Elongation)ทำให้เกิดลักษณะบวมขึ้นเป็น “หัว”
3. Cell Differentiation (การเปลี่ยนสภาพและหน้าที่) ทำให้เกิดการเปลี่ยน Stolon หรือ Root ไปทำหน้าที่ให้เหมาะสม สะสมอาหารและเซลล์ท่อลำเลียง (Vehicle tube Cell) ก็เปลี่ยนสภาพเพื่อทำให้การลำเลียงอาหารมาสะสมที่หัว อย่างมีประสิทธิภาพ สะดวกและง่ายขึ้น อาหารถูกสะสมได้มากขึ้นที่หัว การสังเคราะห์แสงเพื่อให้ได้ปริมา ณระดับน้ำตาลที่สูงจะช่วยให้การลงหัวดีและมีขนาดใหญ่ขึ้น

เมื่อได้ รับ “AXZON” (Jasmonic acid , Glutamic acid and Mixer of Other Organic acid compound) จะช่วยให้เซลล์บริเวณ Storage Root มีขนาดใหญ่ขึ้นและมีจำนวนมากขึ้นทำให้พร้อมสะสมแป้งและโปรตีนมากขึ้น อีกทั้งการเคลื่อนย้ายโปรตีนและแป้งทำให้ง่ายขึ้น หัวมันเลยใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว ·










 ซูการ์-ไฮเวย์   (ZUKAR- Highway)
         ซูการ์ กรดอะมิโนเข้มข้น ละลายน้ำได้อย่างสมบูรณ์   พืชนำไปใช้ได้ทันที
และดูดซึมได้อย่างรวดเร็วทั้งทางราก ลำต้น กิ่งและใบ โดยเฉพาะในกรณีฟ้าปิด
1. ซูการ์  เป็นสารพลังงานสูงที่พืชสามารนำมาสร้างฮอร์โมน และเอ็นไซม์ที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตและการติดดอกออกผลของพืช
2. ซูการ์  ช่วยให้การพัฒนาดอก และผล มีประสิทธิภาพรวดเร็ว ช่วยส่งเสริมการผสมเกสร ลดการหลุดร่วงเพิ่มคุณภาพผล และปริมาณผลผลิต
3. ซูการ์  ช่วยพืชที่อยู่ในสภาพเครียด หรือโทรม ทำให้พืชมีสารอาหารและพลังงาน พร้อมในการติดดอกออกผล อย่างสมบูรณ์
4. ซูการ์  ช่วยเพิ่มคุณภาพของผลผลิต เร่งความหวาน ทำให้ผลไม้มีรสชาติดี เนื้อดี เนื้อแน่น

Zukar คุณประโยชน์

        •  เหมาะสาหรับพืชในช่วงที่ต้องการพลังงานมากกว่าปรกติ เช่น ช่วงแตกใบอ่อน ช่วงการออกดอก ช่วงติดผล และช่วงเร่งความหวาน เป็นต้น
        •  ช่วยให้พืชทนต่อสภาพแห้งแล้งและหนาวเย็นได้ดี

คุณสมบัติพิเศษ
 
•  ให้พลังงานทันทีโดยไม่ต้องผ่านขบวนการสังเคราะห์แสง (Photosynthesis)ช่วยเพิ่มพลังงาน และ อาหารสะสมให้พืช
•  ช่วยปรับสมดุลของสารอาหารและฮอร์โมนภายในพืชตามหลัก “สมดุลยศาสตร์” ทำให้พืชสมดุลแข็งแรง เติบโตได้เร็ว ให้ผลผลิตที่ดี มีน้ำหนักสูง
•  พืชแข็งแรงดี จึงมีความทนทานต่อสภาพอากาศที่วิกฤตได้ดี อาทิ ความหนาวเย็น หรือความแห้งแล้ง
•  ก่อนพืชออกดอก ต้องการใช้พลังงานมากกว่าปรกติ เพราะต้องมีการสะสมอาหารเพื่อการออกดอก พืชจึงจำเป็นต้องได้รับพลังงานทางด่วน เพื่อกิจกรรมดังกล่าว และต้องเป็นแหล่งพลังงานที่พืชนำไปใช้ได้ทันที
•  มีธาตุอาหารรองที่จำเป็นต่อการสร้างคลอโรฟิลด์ อันทำให้ช่วยขบวนการสังเคราะห์แสงให้ดีขึ้น
•  มีอะมิโน แอซิค ในรูปที่พืชสังเคราะห์ได้เองตามธรรมชาติ จึงใช้เป็นอาหารสะสมให้พืชทันที
•  มีธาตุอาหารหลักที่ช่วยในขบวนการขนถ่ายน้ำตาลไปสะสมที่ผล ทำให้พืชที่มีผลและผลไม้มีรสชาติดี

...........................................................................

- สร้างแป้ง ขยายหัว



 พาร์ทเวย์ ไอพีพี-เพาเวอร์ 5  (Pathway Ipp Power- 5)
สารตั้งต้นในกระบวนการชีวเคมีสำหรับพืช ช่วยสร้างสารสะสมต่างๆ ในพืช
อาทิ  แป้ง น้ำมัน น้ำยาง น้ำตาล สารหอมระเหย  อื่น ๆ
คุณประโยชน์
         •  ช่วยเพิ่มการสะสมน้ำมันและไขมัน ใช้เพิ่มผลผลิตปาล์มน้ำมันและ
             เหมาะกับการนำไปใช้เพิ่มผลผลิตแก่พืชให้น้ำมันทุกชนิด
         •  ช่วยเพิ่มการสะสมน้ำยาง เพิ่มผลผลิตน้ำยาง เพิ่มคุณภาพร้ำยาง
             ให้ข้นขึ้นมีเปอร์เซ็นต์ยางสูงและมีโมเลกุลยาวมากขึ้น
         •  ช่วยเพิ่มการสะสมแป้งในพืชหัว เช่น มันสำปะหลัง มันฝรั่ง เผือก เป็นต้น
         •  ช่วยเพิ่มการสะสมน้ำตาล เพิ่มผลผลิตให้กับอ้อย ช่วยเพิ่มคุณภาพและความหวานให้กับผลไม้ทุกชนิด
         •  ช่วยเพิ่มพลังงานช่วงพืชมีสภาพไม้สมบูรณ์หรือสิ่งแวดล้อมไม่เหมาะสมจากความร้อนความแห้งแล้ง

คุณสมบัติที่เหนือกว่า
         •  เป็นผลิตภัณฑ์ที่นำสารอาหารตั้งต้นที่พืชจะได้จากการสังเคราะห์แสงตามธรรมชาติ เพื่อนำไปใช้ใน
            การผลิตสารสะสมในพืชทุกชนิด มาให้กับพืชโดยตรง
         •  เพิ่มสารตั้งตันในขบวนการผลิตน้ำมันในพืชที่ให้น้ำมันทุกชนิด เช่น ปาล์มน้ำมัน ถั่วเหลือง  ทานตะวัน  
            ฯลฯ ในต้นยางสารตั้งต้นเหล่านี้จะถูกใช้ในการผลิตน้ำยางโดยตรง ทำให้น้ำยางที่ได้  มีขนาดโมเลกุลที่ยาว
            ขึ้นและน้ำยางมีคุณภาพมากขึ้น
         •   เป็นสารตั้งต้นในการผลิตสารสะสมในพืชชนิดต่างๆ ได้ทุกชนิด เช่น พืชสะสมแป้ง พืชสะสม น้ำตาล
         •  ให้สารตั้งต้น โดยตรงแก่พืช ซึ่งในธรรมชาติจะไดสารนี้จากการสังเคราะห์โดยเฉพาะพืชชนิด C4 และ   
            CAM  ในการเปลี่ยน Pyruvate และ cetyl-CoA ซึ่งเป็นจุดเริ่ม ต้นในการเปลี่ยนไขมัน น้ำมัน  น้ำยาง  
            แป้ง น้ำตาล  ตามขบวนการสังเคราะห์ของพืชแต่ละชนิด
         •  สารตั้งต้นที่พืชจะสังเคราะห์ขึ้นหลังจากที่ได้ปุ๋ยไนโตรเจนไปและช่วยเพิ่มพลังงานทำให้พืชเจริญเติบโต
            และเพิ่มสารสะสมอย่างรวดเร็วยังมีแมกนีเซียมในรูป คีเลท และโปตัสเซียม ซึ่งช่วยให้พืชสังเคราะห์
            แสงได้ดี ขึ้น                                                                                                                                     
         •  และยังเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาสำคัญในการต่อสายโมเลกุลของน้ำมันและน้ำยาง ทำให้เพิ่มคุณภาพของสาร
           สะสมต่างๆในพืช

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น